นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าของ กฟผ. เพียงแห่งเดียวในภาคตะวันออก ได้มีมาตรการควบคุมและบริหารจัดการน้ำที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง ในภาคตะวันออกที่ค่อนข้างวิกฤตและมีข้อกังวลว่าจะมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ร่วมดำเนินมาตรการต่างๆ ไว้

โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้าบางปะกงมีการใช้น้ำในกระบวนการผลิตไฟฟ้า เพียงวันละ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นปริมาณการใช้น้ำที่น้อยมาก จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนและไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนั้น โรงไฟฟ้าบางปะกงยังได้สนับสนุนและให้บริการน้ำประปาเพื่อช่วยเหลือชุมชนโดยรอบพื้นที่ที่ประสบปัญหาจากภัยแล้งอีกด้วย

ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินการช่วยภัยแล้งกับชุมชนโดยรอบพื้นที่เขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำร่วมกับ สทนช. และกรมชลประทาน สนับสนุนเครื่องมือเครื่องจักรบรรเทาภัยแล้ง บริการน้ำอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือพื้นที่รอบเขื่อนรวมแล้วเป็นปริมาณกว่า 63 ล้านลิตร พร้อมทั้งจัดตั้งทีมเฝ้าระวังไฟป่าและแนวป้องกันไฟป่า รวมถึงจัดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์น้ำ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์มาตรการประหยัดน้ำแก่ประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน