‘โออิชิ กรุ๊ป’พาเยือนฟุกุโอกะ

ประกาศวิสัยทัศน์‘2ทศวรรษ’

โดย…วิภา สุนันท์สถาพร

‘โออิชิ กรุ๊ป’พาเยือนฟุกุโอกะประกาศวิสัยทัศน์‘2ทศวรรษ’ – ท่ามกลางธุรกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายที่หนักหน่วง ตั้งแต่เดือนแรกของปี 2563 จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่สร้างแรงกระเพื่อมเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ดีในปี 2562 เป็นปีที่ไม่ง่ายสำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หนึ่งในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อยู่เกือบ 80%

แสดงผลการดำเนินงานสำหรับรอบบัญชีปี 2562 (1 ต.ค.2561- 30 ก.ย. 2562) มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมทั้งสิ้น 13,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,035 ล้านบาท หรือ 8.2% จากปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมของบริษัทเท่ากับ 1,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221 ล้านบาท หรือ 21.9% จากรอบปีบัญชี 2561

มาจากการเติบโตของยอดขายเครื่องดื่มที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ ยอดขายของธุรกิจอาหารจากการขยายสาขาและการเติบโตของสาขาเดิม รวมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการลดค่าใช้จ่ายในการขายอย่างต่อเนื่อง

หากเข้าไปดูรายได้ในแต่ละสายธุรกิจพบว่าธุรกิจเครื่องดื่มมีรายได้ 6,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 515 ล้านบาท เติบโต 8.6% จากปีก่อน มาจากการส่งออกเครื่องดื่มไปยังตลาดต่างประเทศ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีรายได้จากธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ด้วย

ขณะที่ธุรกิจอาหารแข็งแกร่งไม่แพ้กัน มีรายได้ 7,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% หรือ 520 ล้านบาทจากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเปิดสาขาใหม่และการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว

อย่างไรก็ดีจากปัจจัยที่ท้าทาย บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จะก้าวเดินอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย 3 ผู้บริหารที่ขับเคลื่อนสายธุรกิจต่างๆ เริ่มจาก นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารและ น.ส.เมขลา เนติโพธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป นำคณะสื่อมวลชนเดินทางสู่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดประสบการณ์และตอกย้ำความเป็น King of Japanese Restaurants ของโออิชิกรุ๊ป

นางนงนุชกล่าวว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแต่ละความสำเร็จ ไม่ได้มาง่ายๆ ที่สำคัญเป็นปีที่โออิชิเพิ่งฉลองครบรอบ 20 ปี มีพนักงานรวมกันประมาณ 9,500 คน ดังนั้นหากองค์กรไม่แข็งแรงก็ไม่สามารถอยู่ได้

แต่ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาในการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ไม่เคยประนีประนอมเรื่องคุณภาพ ทำให้โออิชิได้ใจลูกค้า และเชื่อมั่นทุกครั้งเมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้โออิชิออกสู่ตลาด ลูกค้าทุกคนไม่เพียงให้ผ่านแต่ยังรับประกันคุณภาพของสินค้า (Endorser) ให้ด้วย

“การเติบโตของโออิชิในปีที่ผ่านมานอกจากธุรกิจเครื่องดื่มซึ่งเป็นหัวใจหลักแล้ว มาจากผลสำเร็จของการเปิดตัวเครื่องดื่มที่เป็นนวัตกรรมใหม่ หนึ่งในนั้นคือกลุ่มเครื่องดื่มพรีเมียมภายใต้ โออิชิ โกลด์ ซึ่งในปีที่แล้วเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเครื่องดื่มชาเขียวไม่มีน้ำตาล หรือมีความหวานน้อยกว่าชาเขียวทั่วๆ ไป”

นางนงนุชกล่าวและว่าอีกหนึ่งความสำเร็จคือการขยายการส่งออกในต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน ทำให้มีอัตราการเติบโตของตลาดส่งออกถึง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ส่วนของธุรกิจร้านอาหารเพิ่มการเติบโตจากการเปิดบริการในหลายๆ แบรนด์รวมทั้งสิ้น 26 สาขา แบรนด์หลักยังคงเป็นชาบูชิ ในปีที่ผ่านมามีลูกค้าเกือบ 17.5 ล้านคนที่เข้ามาใช้บริการธุรกิจร้านอาหาร

อีกหนึ่งธุรกิจน้องใหม่ของโออิชิกรุ๊ป คือ‘แพ็กเกจฟู้ด’ หรือธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทานภายใต้แบรนด์ ‘โออิชิ อีทโตะ’(OISHI EATO) ซึ่งเพิ่งรีแบรนดิ้งให้เป็นแบรนด์เดียวพร้อมเปิดตัวรายการสินค้าใหม่รวมแล้ว 16 รายการ

นางนงนุชยังประกาศวิสัยทัศน์ของ โออิชิด้วยว่า สำหรับทิศทางการทำตลาดนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โออิชิต้องการเป็นผู้นำอย่างชัดเจนทางด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น

ภาพใหญ่ของโออิชิจะอยู่บน 5 แกน กับ 3 เรื่องใหม่ที่จะเข้าไปอยู่ในสินค้าและบริการของโออิชิกรุ๊ป

เริ่มจากการสร้างการเติบโตด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย

ถัดมาคือการสร้างความหลากหลายของธุรกิจ มีกลุ่มแพ็กเกจฟู้ดเพิ่มเข้ามาทำให้สร้างสมดุลทางรายได้ให้ทุกกลุ่มธุรกิจได้ เช่นธุรกิจเครื่องดื่มล่าสุดถูกกฎหมายความหวานเข้ามามีอิทธิพลต่อการทำตลาดมากขึ้น

ขณะเดียวกันมีธุรกิจร้านอาหารมาสร้างสมดุลของรายได้ให้ดีขึ้น แต่การขยายสาขาร้านอาหารใหม่ๆ เริ่มจำกัด ทำให้การสร้างรายได้โดยขยายไปต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนจะเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สร้างให้บริษัทเติบโต

และสุดท้ายเรื่องการสร้างแบรนด์ ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ผ่านผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นส่งอาหารอย่างแกร็บ ฟู้ดแพนด้า และไลน์แมน เป็นต้น ซึ่ง โออิชิจะเข้าไปในช่องทางต่างๆ เหล่านี้ด้วย

ขณะที่ 3 เรื่องใหม่ที่จะเป็นแกนหลักที่บริษัทต้องคำนึงถึงในการสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจในอนาคตข้างหน้า คือ

1.ดีต่อสุขภาพ (Health) และทำให้ชีวิตดี (Wellness) ซึ่งจะเข้ามาอยู่ในสินค้าใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่ม ที่ตอบสนองด้านโภชนาการ ไม่มีสารเคมี เป็นต้น

2.คำนึงด้านความยั่งยืน (Sustainability) ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการจัดการของเสีย ภายใต้ 3 Rs คือ Reduce ลดการใช้ Reuse การนำกลับมาใช้ซ้ำ Recycle การแปรรูปมาใช้ใหม่

และ 3.DIGITAL การนำเทคโนโลยีตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้กับลูกค้า เช่น พัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ลูกค้าจองโต๊ะได้ โดยไม่ต้องนั่งรอหน้าร้าน เป็นต้น

ด้านนางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม กล่าวถึงกลยุทธ์ในปีนี้โดยจะมีการกระตุ้น การบริโภคด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ ขยายฐานผู้ดื่ม มุ่งเน้นไปที่การสร้างฐาน ผู้บริโภคใหม่เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น โดยใช้แพลตฟอร์มเกมผ่านแคมเปญ OISHI x ROV เพื่อเข้าถึงฐานผู้บริโภคอายุ 13-24 ปี เพิ่มขึ้น

พร้อมขยายฐานพรีเมียม ตอบโจทย์ เทรนด์สุขภาพ ด้วยการเดินหน้าขยายตลาดชาพร้อมดื่มพรีเมียม ภายใต้ โออิชิ โกลด์ เกียวคุโระ ชาเขียวที่หายากให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ทำจากยอดอ่อนใบชาแท้นำเข้าจากไร่ชารางวัลจักรพรรดิ ประเทศญี่ปุ่น

นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร กล่าวว่าเพื่อสร้างและรักษาความเป็นเจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่น King of Japanese Food อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูใหม่ๆ การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เหมาะสม และการขยายสาขาต่อเนื่อง

อีกทั้งยังพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ เพิ่มเติมจากการสั่งซื้อผ่านทางโทร.1773 ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเอง www.oishidelivery.com ควบคู่ไปกับผู้ให้บริการสั่งอาหารบนแอพพลิเคชันต่างๆ

ทีมผู้บริหารโออิชิกรุ๊ป

การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น โออิชิ ให้มีความทันสมัย อาทิ การนำเสนอรูปแบบโมเดลธุรกิจใหม่ ชาบูชิ ‘บริการ 24 ชั่วโมง’ รับวิถีคนเมืองนอนดึก มอบประสบ การณ์แปลกใหม่แก่ผู้บริโภค

รวมถึงการพัฒนาและเปิดแบรนด์ใหม่ทั้งร้านอาหารและร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ได้แก่โฮว ยู (HOU YUU), ซากาเอะ (SAKAE) จับกลุ่มลูกค้าระดับบน และ โอโยกิ (OYOKI) ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นร้านขนมหวานแบรนด์แรกของโออิชิ

เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสาขาแรก ที่อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ และเตรียมขยายสาขา 2 ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์

น.ส.เมขลา เนติโพธิ์ รองกรรมการ ผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่ากลยุทธ์หลัก 3 ด้าน เริ่มจากการสร้างให้แบรนด์โออิชิ อีทโตะ (OISHI EATO) แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ขณะเดียวกันจะพัฒนาและสร้างสรรค์สินค้าที่แตกต่างและโดดเด่น ทั้งรูปแบบ รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และบรรจุภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภคที่หลากหลาย

และกลยุทธ์สุดท้ายคือการสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายหลักอย่าง ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มฟู้ด เซอร์วิส ด้วยการซินเนอร์ยี่ระหว่างพันธมิตรกลุ่มธุรกิจในเครือไทยเบฟ รวมทั้งขยายสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้นทั้งอาเซียนและสหภาพยุโรป

‘20 ปี’ของโออิชิ เหมือนคนหนึ่งคนที่ผ่านช่วงวัยรุ่นมาแล้วผ่านร้อนผ่านหนาวมาและโตเต็มที่ พร้อมที่จะสร้างก้าวต่อไปข้างหน้า เพื่อให้เติบโตอย่างมั่นคงและ แข็งแรงตลอดไป