นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ได้เชิญผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กกว่า 200 ราย อาทิ บริษัท สหวิริยาพาณิชย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บจ.สังกะสีไทย และบริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน) เข้าหารือทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการยื่นขอ มอก. 50-2561 เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก หลังประกาศเป็นสินค้าควบคุมและจะมีผลบังคับใช้ประมาณเดือนส.ค.นี้

ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีการนำสินค้าเหล็กมาผลิตเป็นชิ้นส่วนของสินค้าต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น หากเหล็กดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลต่อคุณภาพของสินค้าต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้ใช้งานปลายทาง สมอ. จึงได้ดำเนินการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์เหล็กดังกล่าวเป็นสินค้าควบคุมโดยการประกาศเป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมของประเทศ และคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยจากการใช้สินค้า

นายวันชัย กล่าวว่า สมอ. จะเริ่มดำเนินการตรวจประเมินโรงงานตามมาตรฐานที่จะประกาศใหม่ เพื่อให้การออกใบอนุญาตสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สมอ. ยังมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงของกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 4 ฉบับ ซึ่งจะมีผลให้ผลิตภัณฑ์เหล็กอีก 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานดึงรูปเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อน เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็น สำหรับงานรถยนต์ และเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ ต้องเป็นสินค้าควบคุมอีกด้วย โดยขั้นตอนต่อไป สมอ. จะเสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน