นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ. ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส-19 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อยังมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งยอมรับว่าอาจส่งผลทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยและกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ เห็นได้จากราคาน้ำมันดิบดูไบระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-5 เม.ย. 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 22.76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 3.04 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกปิดเมืองเพื่อระงับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลกดดันต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบที่อาจปรับตัวสูงขึ้น หลังซาอุฯ และรัสเซียประกาศทำสงครามราคาน้ำมันและเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนเม.ย. 2563 อย่างไรก็ตาม จับตาการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกัน รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ยังวางแผนเตรียมเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบที่ระดับ 10.6 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนพ.ค. 2563 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในประเทศลดลง ขณะที่ซาอุดี อารามโค ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ 13 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 22.91 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 2.26 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้ข่าวเรื่องการเจรจากับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และเจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุฯ ว่าอาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงราว 10-15 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็น 10% ของอุปทานการผลิตน้ำมันดิบโลก เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตน้ำมันที่ถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่กลุ่มโอเปกมีการเรียกประชุมฉุกเฉินในวันที่ 9 เม.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 1 เม.ย.2563 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 57,610 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 21,317 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 36,293 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 41,896 ล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ 5,603 ล้านบาท
