นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) 489 คัน ซึ่งขสมก. ทำการยกเลิกการประมูลกับ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารโอนเงินค้ำประกัน (แบงก์การันตี) กรณีเบสท์ริน ส่งมอบรถล่าช้า จำนวน 338.978 ล้านบาท มาให้ ขสมก.แล้ว รวมทั้งขสมก. เตรียมยื่นฟ้องร้องค่าเสียหายค่าปรับที่เกินวงเงินค้ำประกันเพิ่มเติมอีกประมาณ 500 ล้านบาท จากเบสท์รินด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบก ทำเพิกถอนการจดทะเบียนรถเมล์เอ็นจีวี 292 คันของเบสท์ริน เนื่องจากทราบว่าใบเสร็จรับเงินค่ารถที่เบสท์ริน นำมายื่นเพื่อขอจดทะเบียนกับ ขบ. เป็นเท็จ ซึ่งขสมก. ยังไม่มีการจ่ายเงินชำระค่ารถให้แก่เบสท์ริน แต่อย่างใด รวมทั้ง เบสท์ริน ยังยื่นต่อศาลเพื่อขอถอนคำขอคุ้มครองชั่วคราว ให้ ขสมก. ตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวีจากบริษัทจำนวน 292 คันด้วย โดยไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันรอบใหม่ ซึ่ง ขสมก. เพิ่งประกาศขยายระยะเวลาการยื่นเอกสารการประมูลจากวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาเป็นวันที่ 22 มิ.ย. ว่า เบื้องต้นต้องรอให้อนุกรรมการฝ่ายกฎหมายของคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. ชี้ขาดว่าจะยึดราคากลางการประมูลตามผลการประมูลรอบเดิมของเบสท์รินที่ได้ยกเลิกสัญญาได้ หรือจะยึดราคาตาม TOR รอบใหม่ในการประชุมวันที่ 16 มิ.ย. เบื้องต้นมีความเห็นส่วนตัวว่า ระเบียบ ป.ป.ช. ให้กำหนดราคากลางโดยยึดราคาซื้อขายสำเร็จ แต่กรณีเบสท์รินถือว่าการดำเนินการซื้อขายไม่สำเร็จ จึงไม่ควรยึดราคากลางตามเบสท์ริน ดังนั้นควรยึดราคากลางตาม TOR รอบใหม่ถูกต้องแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน