นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคมฐานะ รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า วันที่ 19 มิ.ย.นี้ ขสมก. จะหารือร่วมกัน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สำนักงบประมาณเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการของขสมก. ในช่วง 5 ปี (2560-64) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐที่ให้แก้ปัญหาโดยเร่งด่วน

โดยจะมีการเสนอแนวทางเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย รวมถึงผลดีผลเสียของแต่ละแนวทางให้ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูล ซึ่งหากเห็นชอบจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดขสมก. และเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาอนุมัติในเดือนมิ.ย.นี้ หากผ่านการอนุมัติจะเสนอให้ครม.อนุมัติได้ในเดือนก.ค.

สำหรับแผนการเพิ่มรายได้ เช่น การปรับขึ้นค่าโดยสารในแต่ละอัตราว่าจะทำให้ขสมก.มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างไรบ้าง ส่วนแผนลดค่าใช้จ่ายเช่น การจัดทำโครงการสมัครใจลาออก หรือเออร์ลี่ รีไทร์ หลังจากที่นำขสมก. ระบบอี-ทิกเก็ตมาใช้แทนพนักงานเก็บค่าโดยสาร โดยตั้งเป้าจะลดการใช้พนักงานเก็บค่าโดยสารลง จากปัจจุบัน 4.2 คน/1 คัน เหลือ เพียง 2.4 คน/1 คัน หรือปรับลดลงประมาณ 50% หรือปรับลดลงประมาณ 1,000 คน จากปัจจุบันที่มีพนักงานทั้งสิ้น 2,000 คน

นายสมศักดิ์กล่าวว่า สำหรับโครงการจัดหารถเมล์ใหม่เป็นหนึ่งของแผนฟื้นฟูกิจการของขสมก. โดยตั้งเป้าจัดหารถเมล์ใหม่ทั้งหมด 3,000 คัน จากปัจจุบันที่มีรถเมล์อยู่ 2,600 คัน เพื่อรองรับการปฏิรูปเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางใหม่ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จำนวน 138 เส้นทาง

โดยแบ่งเป็นการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คันภายในปี 2560, การจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 700 คัน ภายในปี 2562 , ปรับปรุงรถเก่าให้มีสภาพการใช้งานที่ดีขึ้น 600 กว่าคัน ที่เหลือ 1,711 คันจัดซื้อรถใหม่แต่ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นรถประเภทใด นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าปลดระวางรถเมล์เก่า 2,700 คัน ภายในปี 2564 แบ่งเป็น ปี 2560 จำนวน 107 คัน ปี 2561 จำนวน 501 คัน ปี 2562 จำนวน 624 คัน ปี 2563 จำนวน 669 คัน และปี 2564 จำนวน 852 คัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน