นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า สถิติการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรช่วง เดือนม.ค.-พ.ค. 2560 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมียอดจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรแล้ว 499 ราย จำนวน 2,209 เครื่อง รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนเครื่องจักร 7.79 หมื่นบาท และมียอดจดทะเบียนจำนองเครื่องจักรช่วงดังกล่าวกว่า 4.84 หมื่นล้านบาท
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะ 125 ราย จำนวนเครื่องจักร 254 เครื่อง 2.ผลิตภัณฑ์จากพลาสติก 64 ราย 341 เครื่อง 3.ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า 60 ราย 414 เครื่อง 4.การพิมพ์ 60 ราย 86 เครื่อง และ5.ผลิตภัณฑ์จากอโลหะอื่น 23 ราย 30 เครื่อง
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/2560 กรอ. มีแผนเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เพื่อเร่งส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอีในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในกิจกรรมการแปลงเครื่องจักรเป็นทุน และกิจกรรมการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร โดยให้นำเครื่องจักรภายในโรงงานเข้ามาจดทะเบียนกรรมสิทธิ์กับกรอ. เพื่อนำใบจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
“ปี 2560 คาดว่าจะมีเอสเอ็มอียื่นขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรไม่น้อยกว่า 1,000 ราย และเอสเอ็มอีได้รับคำปรึกษาแนะนำในการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร และสามารถนำเครื่องจักร ไม่น้อยกว่า 1,000 เครื่อง เพื่อยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่กรอ.ได้”นายมงคล กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลสถิติตั้งแต่ปี 2515 ถึงปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรรวม 59,345 ราย จำนวน 809,208 เครื่อง รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนเครื่องจักร 5.8 ล้านล้านบาท
สำหรับประโยชน์ที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับในการเข้าร่วมโครงการ อาทิ ได้รับเงินทุนหมุนเวียนและเครื่องจักรใหม่ ได้รับสิทธิพิเศษด้านการกู้ยืมเงินรายละไม่เกิน 15 ล้านบาท สูงสุดถึง 90% ของใบสั่งซื้อเครื่องจักร ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ตลอดอายุสัญญาและสามารถผ่อนนานได้ถึง 7 ปี โดยปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
นอกจากนี้ ยังได้รับการยกเว้นภาษีผู้ประกอบการจะได้ยกเว้นอากรขาเข้าของเครื่องจักร และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็นสัดส่วน 50% ของเงินทุนโดยไม่รวมค่าที่ดิน และทุนหมุนเวียนในการปรับปรุง ทั้งนี้ ให้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายได้ของกิจการที่ได้ดำเนินการอยู่เดิมแล้ว
