นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า จากผลการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการรัฐในปี 2560 เบื้องต้นพบว่ามีประชาชนที่ลงทะเบียนแจ้งว่ามีปัญหาหนี้นอกระบบอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการลงทะเบียนในรอบปี 2559 คือมีจำนวน 1.3 ล้านราย ส่วนมูลหนี้นอกระบบพบว่าในปี 2560 นี้มีจำนวน 7 หมื่นล้านบาท ลดลงจากยอดลงทะเบียนปีก่อนที่มียอดหนี้นอกระบบรวมกันราว 9 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยการนำของนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน เดินสายประชุมเชิงปฏิบัติการการแก้หนี้นอกระบบในหลายจังหวัด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ในการส่งคนที่มีปัญหาหนี้นอกระบบเข้าโครงการ แม้ผลจากการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการจากรัฐในส่วนของ จ.นครนายก จะพบว่ามีประชาชนที่มาลงทะเบียนแจ้งว่ามีปัญหาหนี้นอกระบบเพียง 4,000 รายก็ตาม

“จากการเดินสายจัดประชุมเชิงปฏิบัติการแก้หนี้ที่ จ.นครนายก พบว่าผลจากการความร่วมมือที่ดีจากผู้ว่าฯ ที่นำลูกหนี้ และชวนเจ้าหน้าที่เข้าระบบมาเปิดพิโกไฟแนนซ์ และคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ประจำจังหวัด คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและหารายได้ของลูกหนี้นอกระบบทำให้กระทรวงการคลัง มีแนวคิดว่าจะทำ นครปฐมโมเดล เป็นโครงการนำร่องในการแก้หนี้นอกระบบ เป็นตัวอย่างให้จังหวัดต่างได้ทำตามบ้าง”นายกฤษฎากล่าว

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลัง เตรียมหารือกับสถาบันการเงินได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ที่มีวงเงินปล่อยกู้เพื่อแก้หนี้นอกระบบรวมกัน 1 หมื่นล้านบาท จัดทำเป็นแพ็กเกจในการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน