นายจุฬา สุขมานพ ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกรณีที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ จะเดินทางเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน (ยูแซฟ) สนามบินดอเนมือง และสุวรรณภูมิระหว่างวันที่ 11-21 ก.ค. ว่า ไอเคโอ จะเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยสนามบินทั้ง 2 แห่ง โดยแยกย่อยการตรวจออกเป็นประเด็นต่างๆ รวม 500 ข้อ โดยจะใช้เวลาตรวจสอบสนามบินสุวรรณภูมิ รวม 4 วัน และสนามบินดอนเมืองรวม 2 วัน มั่นใจว่าไทยจะผ่านการตรวจสอบครั้งนี้ เนื่องจากได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายังคงมีความเป็นห่วงในส่วนของสนามบินดอนเมือง เกี่ยวกับมาตรการควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบริเวณสนามกอล์ฟ ของกองทัพอากาศ หรือสนามงู ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเขตการบิน ซึ่งก่อนหน้านี้ กพท. ขอให้เพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย และขณะนี้กองทัพอากาศดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นายจุฬากล่าวต่อว่า เบื้องต้นกองทัพอากาศ มีการปรับเปลี่ยนระบบรักษาความปลอดภัยของสนามกอล์ฟ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมความเสี่ยงภัยแล้วประกอบด้วย การติดตั้งประตูรั้วทางเข้าสนามกอล์ฟเพิ่มเติมอีก 1 ชั้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามากำกับดูแลแทนเจ้าหน้าที่ ของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่เข้าและออก , การจัดทำบัตรสมาชิกสนามกอล์ฟใหม่ทั้งหมด โดยจะอนุญาตให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถเข้าไปใช้บริการได้, ติดตั้งเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดสำหรับรถยนต์ที่เข้าและออกจากสนามกอล์ฟ รวมทั้งเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดในตัวบุคคลที่ผ่านเข้าออก
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบครั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ไอเคโอ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าทั้ง 2 สนามบินมีมาตรการควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสนามบินที่มีประสิทธิภาพก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากตรวจแล้วไม่มั่นใจประสิทธิภาพจนมีนัยสำคัญด้านการรักษาความปลอดภัยภายในสนามบินไทยก็จะสอบตก ซึ่งตามขั้นตอน ไอเคโอ จะประกาศแจ้งเตือนให้สมาชิกรับทราบ แต่จะไม่ประกาศผ่านเว็บไซต์เป็นการทั่วไป เนื่องจากเป็นเรื่องที่อ่อนไหวเพราะเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยกับผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการสนามบินโดยตรง ส่วนแต่ละประเทศสมาชิกจะมีคำแนะนำสายการบินของตนเองอย่างไร เป็นสิทธิ์ของแต่ละประเทศ
