นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจรายสาขา ว่า มอบหมายให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งจัดทำแผนดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจในภาพรวมและรายสาขา เพื่อให้การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกันและให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งรัฐวิสาหกิจจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้คนไทย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐวิสาหกิจช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะงบลงทุนได้เร่งเบิกจ่ายถึง 17% และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกขยายตัวที่ 3.3% ทดแทนการลงทุนเอกชนที่ยังชะลอตัวและเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยรัฐวิสาหกิจสามารถส่งเงินเข้าคลังกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี
นายสมคิด กล่าวว่า ได้หารือนอกรอบกับ รมว.คลัง ถึงแนวทางสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ซึ่งเห็นว่ารัฐวิสาหกิจ รวมทั้งหน่วยงานรัฐ ทุกกรม ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีพื้นที่ใกล้เคียงสามารถนำมาจัดให้ผู้มีรายได้น้อยใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ เพื่อแก้ไขปัญหา คนจนไม่มีเงิน ที่ค้าขายถูกจัดระเบียบ ทำไมไม่จัดหาเปิดให้ค้าขาย ให้คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปีมาใช้ประโยชน์ จะเห็นได้จาก ตลาดต่างๆ ข้างส่วนราชการ มาเปิดเป็นตลาดนัด ก็มีผู้มีรายได้น้อยใช้เป็นที่ทำกินได้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กล่าวในงานสัมมนาแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจรายสาขา ว่า ต้องการให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ภายใต้ 3 แนวทาง คือ 1.ดำเนินการตามภารกิจของแต่ละรัฐวิสาหกิจ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ต้องทำเพื่อผู้มีรายได้น้อย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ต้องสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ธนาคารออมสินต้องช่วยผู้มีรายได้น้อยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ใช่แข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ ไม่ใช่การทำกำไรสูงสุด แต่ต้องบริหารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ต้องการให้รัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรที่ไม่มีประสิทธิภาพ จนกลายเป็นภาระงบประมาณเข้าไปอุดหนุน
2.เมื่อมีประสิทธิภาพแล้วก็ต้องทำงานรวดเร็วขึ้น บางแห่งเริ่มโครงการใช้เวลา 3-4 ปี ต่างจากเอกชนที่เดินหน้าโครงการได้เร็ว ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ และ 3.ต้องมีการบริหารระบบธรรมาภิบาลที่ดี วางกรอบ กฎเกณฑ์ เพื่อป้องกันภาคการเมืองเข้ามาแทรกแซง ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่า เมื่อมีปัญหาทุจริตขึ้น รัฐวิสาหกิจจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแทบทุกครั้ง จะทำอย่างไรไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นของรัฐวิสาหกิจได้ปรับเปลี่ยนบทบาทของกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังให้ทำหน้าที่เป็นผู้ถือหุ้นเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน โดยสินทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจภาพรวมมีสูงถึง 13 ล้านล้านบาท เกือบเท่าจีดีพีของประเทศ และมีรายได้รวม 5 ล้านล้านบาท ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจช่วยเร่งลงทุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้น
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจมีระยะเวลา 2560-2564 เพื่อกำหนดเป้าหมายร่วมกัน เร่งลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยให้รัฐวิสาหกิจในแต่ละสาขาทั้ง 9 สาขา ประกอบด้วย สาขาขนส่ง, พลังงาน, สาธารณูปการ, ทรัพยากรธรรมชาติ, อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม, สังคมเทคโนโลยี, เกษตร สื่อสาร และสถาบันการเงิน จัดทำแผนระยะสั้น กลาง ยาว และจะกำหนดให้เป็นตัวชี้วัดการทำงานหรือ เคพีไอ ด้วย เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
