นายภคพงค์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารจากกรมทางหลวง และกรมทาหลวงชนบท เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ภายในโครงการรถไฟฟ้า ว่า มีการพิจารณาเรื่องการใช้พื้นที่ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าหลายเส้นทางเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อโครงสร้างของระบบขนส่งของหน่วยงานปัจจุบันที่มีอยู่

สำหรับโครงการถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 5.2 หมื่นล้านบาท นั้น รฟม. เสนอขอใช้พื้นของกรมทางหลวง (ทล.) บริเวณแขวงการทางบริเวนหน้าวัดศรีเอี่ยมจำนวน 10 ไร่ ก่อสร้างเป็นอาคารจอดแล้วจร (จอดและรับส่งคน) และศูนย์ซ่อม รวมทั้งขอใช้พื้นที่เกาะกลางถนนตลอดแนวถนนศรีนครินท์ก่อสร้างเป็นต่อหม้อ ซึ่ง ทล. เห็นชอบในหลักการ แต่ขอให้ รฟม. ทำการจัดสร้างทางระบายน้ำเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ เนื่องจากเดิมมีการใช้พื้นที่เกาะกลางเป็นทางระบายน้ำ เบื้องต้น รฟม. เตรียมที่สร้างทางระบายน้ำ ตามแนวทางเท้าทั้ง 2 ฝั่งถนน เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำ

ส่วนสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี 34.5 กิโลเมตร กม. วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท รฟม. ขอใช้พื้นที่บริเวณแขวงการทางหลักสี่ เพื่อใช้ก่อสร้างเป็นสถานีหลักสี่ ซึ่ง ทล. เห็นชอบ แต่ขอให้ปรับแบบเพื่อลดขนาดพื้นที่ลงอีก

นายภคพงศ์กล่าวต่อถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 16.4 กม. วงเงิน 1.1 แสนล้าน และ สีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ-วงแหวนกาญจนาภิเษก ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 131,171 ล้านบาท นั้น รฟม. จะต้องกลับไปพิจารณารายละเอียดด้านเทคนิคเพิ่มเติมว่างานก่อสร้างรถไฟฟ้าจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างสิ่งก่อสร้างเดิมหรือไม่ โดยสีส้มต้องไปดูว่างานก่อสร้างใหม่จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสาของสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ส่วนรถไฟฟ้าสีม่วงใต้จะต้องไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสะพานพระปกเกล้า และสะพานพระราม 3 บริเวณแยกมไหสวรรย์

“สำหรับรถไฟฟ้าเหลืองและชมพู คาดว่าจะเคลียร์พื้นที่จบและให้ผู้รับเหมาได้เข้าพื้นที่เริ่มก่อสร้างได้ไม่เกินไตรมาสที่ 3 หรือเดือนส.ค.-ก.ย. นี้ โดยสีเหลืองจะให้เข้าพื้นที่บริเวณศรีนครินทร์ก่อน ส่วนพื้นที่ในเมืองอาจจะชะลอไว้นิดนึงเพื่อไม่ให้กระทบกับจราจรมากไปกว่านี้ เพราะปัจจุบันยังมีการก่อสร้างสายสีเขียวอยู่ ส่วนสายสีชมพูจะเริ่มก่อสร้างเกาะกลางก่อนและน่าจะเข้าพื้นที่มากกว่าสีอื่น เพราะพื้นที่ไม่ทับซ้อนกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายอื่น ส่วนสีส้มตะวันออก จะเริ่มตอกเสาเข็มทดสอบการรับน้ำหนักวันที่ 10 ก.ค. นี้ บริเวณหน้าบริษัท มิสทีส รามคำแหง” นายภคพงค์กล่าว

นายภคพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม. ได้ประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อเตรียมปรับการจราจรรองรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางตำรวจก็ขอให้ รฟม. เร่งทำแผนประชาสัมพันธ์เรื่องการปิดกั้นพื้นที่เพื่อช่วยลดปัญหาจราจรด้วย

นอกจากนี้ รฟม. อยู่ระหว่างเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาออกประกาศเวนคืนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู, เหลือง และส้มเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้อำนาจฝ่ายกรรมสิทธิ์ที่ดิน รฟม. เวนคืนพื้นที่ของเอกชนซึ่งไม่ยอมตกลงเจรจา เมื่อประกาศมีผล รฟม. ก็ต้องวางค่าเวนคืนเป็นระยะเวลา 60 วัน จึงสามารถครอบครองพื้นที่ได้ ถ้าไม่ออกประกาศดังกล่าว รฟม. ก็ต้องออก พ.ร.บ.เวนคืนเป็นรายแปลง ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2 ปีจึงจะเวนคืนที่ดินของเอกชนได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน