นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร สู่ตลาดนำการเกษตร ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานในการพัฒนาเกษตรกรแปลงใหญ่ ให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนความร่วมมือด้านการตลาด เพื่อให้เกษตรกรผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาด โดยให้เกษตรกรมีทางเลือกในช่องทางจำหน่ายผลผลิตผ่านสาขาของแม็คโคร ที่มีมากกว่า 130 สาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการพัฒนาการเกษตรโดยส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มในการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีแปลงใหญ่ จำนวน 6,877 แปลง เกษตรกรเข้าร่วมกว่า 407,493 ครัวเรือน พื้นที่ 6,585,336 ไร่ สินค้าเกษตรประมาณ 90 รายการ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการกลุ่มและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด มีการเชื่อมโยงกลุ่มผู้ผลิตกับตลาดตามนโยบาย การตลาดนำการเกษตร ซึ่งจากการขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ขับเคลื่อนความร่วมมือในการเชื่อมโยงการทำงานด้านการผลิตและการตลาดกับภาคเอกชนต่างๆ และได้วางแผนการดำเนินการร่วมกัน ทั้งแผนระยะเร่งด่วน (Quick win) รวมถึงแผนความร่วมมือมาอย่างต่อเนื่อง

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันแม็คโครได้ทดลองซื้อผลผลิตเผือกหอมจากกลุ่มเกษตรกรของแปลงใหญ่เผือก ต.หรเทพ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ส่งเข้าศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าในปริมาณ 5,000 กิโลกรัม โดยเริ่มส่งผลผลิตตั้งแต่ 28 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา และจะมีแผนความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ก่อน จากนั้นจึงขยายผลต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ ซึ่งได้ร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตให้เน้นการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐานตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับภาคการเกษตรอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเกษตรกรที่มีความเปราะบางในด้านการระบายผลผลิต ที่กว่าครึ่ง กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว มีผลผลิตพร้อมขาย แต่ด้วยระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่ชะงักงันในช่วงภาวะโควิด-19 ผลผลิตระบายไม่ทัน แม็คโคร จึงร่วมกับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการใช้กลยุทธ์ ตลาดนำการเกษตร สนับสนุนการกระจายสินค้าผ่านสาขาของแม็คโคร สู่ผู้ประกอบการร้านอาหาร พร้อมยกระดับคุณภาพให้ผลผลิตมีความสม่ำเสมอและขายได้ราคา

“สิ่งที่แม็คโครสามารถช่วยได้มากคือ การเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งมีการซื้ออย่างสม่ำเสมอในปริมาณมาเพื่อนำไปประกอบธุรกิจ สร้างโอกาสในการขายผลผลิตให้เกษตรกรได้มากกว่า โดย เผือกหอม จากกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ตำบลหรเทพ อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เป็นสินค้าจากกลุ่มเกษตรกรกลุ่มแรกที่แม็คโครรับซื้อผ่านความร่วมมือดังกล่าว ล็อตแรกจำนวน 5,000 กิโลกรัม สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที”

แม็คโคร และกรมส่งเสริมการเกษตร ได้วางกรอบความร่วมมือในระยะยาว ให้เกิดความต่อเนื่อง ในการพัฒนาและส่งเสริมการตลาดอย่างยั่งยืนให้กับสินค้าเกษตรอื่นๆ ด้วย ในลำดับต่อไป ซึ่งในแต่ละปีแม็คโครรับซื้อสินค้าเกษตรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ มีการรับซื้อในปี 2562 เป็นปริมาณมากกว่า 170,000 ตัน คาดว่าในปี 2563 จะรับซื้อผักผลไม้ได้ในปริมาณมากกว่า 200,000 ตัน จำนวนนี้รับซื้อจากเกษตรกรรายย่อย กลุ่มสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน จำนวน 16 กลุ่มทั่วประเทศ และมีสมาชิกเกษตรกรมากกว่า 7,700 ครัวเรือน

นางสุวิมล สุภธรรม อายุ 49 ปี เจ้าของไร่เผือกหอม หนึ่งในสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่เผือก ตำบล หรเทพ อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี กล่าวว่า “เผือกหอมที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกที่มีคุณภาพ ผลผลิตของเราส่งออกไปขายหลายแห่ง ทั้งในโรงงานผลิตขนมรายใหญ่ และส่งออกไปขายยังตลาดจีน แต่ในช่วงโควิด-19 เราได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องหาตลาดเพื่อระบาย พอได้แม็คโครเข้ามา ก็ทำให้มีความหวัง แถมยังได้เรียนรู้การทำตลาด การพัฒนามาตรฐานต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย”

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินงานในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จำนวน 407,493 ครัวเรือน พื้นที่ 6,585,336 ไร่ จำนวนแปลงใหญ่ 6,877 แปลง สินค้าเกษตรประมาณ 90 รายการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน