นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเปิดประมูลจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ปริมาณ 1.6 แสนตัน ซึ่งเป็นข้าวสารคุณภาพเกรด A ล็อตสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ใน 28 คลัง ปรากฎว่า มีผู้สนใจเข้ายื่นซองเสนอราคา 12 ราย โดยเสนอซื้อข้าวใน 24 คลัง คิดเป็น 99.93% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด ส่วนที่ยังเหลืออีกเพียง 100 กว่าตันเป็นข้าวเสื่อมหนักที่ไม่คุ้มค่าใช้จ่ายในการขนย้าย จึงไม่มีผู้สนใจประมูล ซึ่งกรมจะต้องหาวิธีการดำเนินการต่อไป

ส่วนกรณีนักการเมืองโจมตีการระบายข้าวว่าตัดสิทธิ์เอกชนบางรายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบางรายได้ซื้อข้าวนั้น ยืนยันไม่ฟ้องกลับ เพราะทำงานภายใต้การอนุมัติของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อย่างโปร่งใส สาเหตุที่ต้องตัดสิทธิ์เอกชนรายดังกล่าว เนื่องจากมีข้อกำหนดใน TOR ชัดเจนว่าคณะกรรมการบริษัทจะต้องไม่เคยเป็นผู้ทำความเสียหายให้กับรัฐ ซึ่งกรรมการรายหนึ่งของบริษัทที่ถูกตัดสิทธิ์มีชื่ออยู่ในบริษัทที่เคยถูกกรม ฟ้องเรียกค่าเสียหาย และศาลฎีกาตัดสินแล้วว่าให้ชำระเงินคืน ซึ่งก็ยังไม่ได้จ่ายคืนให้กับรัฐ

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ในการเปิดประมูลข้าวที่ผ่านมา 27 ครั้ง ก็ชี้แจงมาโดยตลอด และไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกหยิบมาเป็นประเด็นในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงใกล้ตัดสินคดีจำนำข้าว หากมีหลักฐานควรนำมาแสดงให้ชัดเจนไม่ควรกล่าวหาลอยๆ

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าสังคมและประชาชนเข้าใจการทำงานของภาครัฐ ที่มุ่งมั่นเคลียร์ภาระสต๊อกข้าวจากรัฐบาลชุดก่อน ที่มีข้าวในสต๊อกมากถึงกว่า 17 ล้านตัน จนกระทั่งวันนี้สามารถระบายไปได้แล้วกว่า 15 ล้านตัน ส่งเงินคืนคลังได้รวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท ทำให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคาดีขึ้น และรัฐไม่ต้องมีภาระในการเข้าไปแทรกแซงอีกต่อไป

สำหรับการยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางที่ให้ระงับการระบายข้าวเสื่อมกว่า 2 ล้านตันไว้ก่อนนั้น กรมทำงานเต็มที่ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นอุทธรณ์ให้สามารถดำเนินการระบายข้าวได้อย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน