นายสุธี ลิมปนชัยพรกุล ประธานอำนวยการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่าสถานการณ์ตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมระดับในใจกลางกรุงเทพฯ ยังขายได้อย่างเนื่อง โดยดูได้จากโครงการที่บริษัทได้เปิดการขายไปก่อนหน้านี้ อาทิ โครงการบ้านเดี่ยวพาร์คพรีว่า พระราม 9-รัชดาภิเษก, คราม สุขุมวิท 26 คอนโดมิเนียม รวมถึงบ้านดี่ยวอีก 3 โครงการภายใต้แบรนด์ “ควอร์เตอร์ คอลเลคชั่น” ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ บริษัท คูน แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ จำกัด

ประกอบไปด้วย ควอร์เตอร์ ทองหล่อ โครงการบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายได้ตั้งแต่ในช่วงแรกที่เปิดตัว และอีก 2 โครงการ ควอร์เตอร์ 31 และควอร์เตอร์ 39 ที่ล่าสุดได้ก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโคงรการพร้อมเปิดบ้านตัวอย่างเพื่อให้ลูกค้าเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากยอดขายคืบหน้าไปแล้ว 75% จากทั้งหมด 15 ยูนิต หรือเหลือขายอีก 4 ยูนิตสุดท้าย ในราคาเริ่มต้น 46.9-55 ล้านบาท ซึ่งเป็นบ้านสไตล์ เออร์เบิร์น วิลล่า พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 380-479 ตร.ม. ที่ตั้งโครงการอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 39 บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ โดยบ้านทุกหลังมีที่จอดรถใต้ดิน 3-4 คัน พร้อมลิฟต์ส่วนตัว

ขณะที่น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะตัวแทนขายโครงการควอเตอร์ 39 กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวบ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับบน โดยเฉพาะโครงการบ้านแนวราบใจกลางเมือง ซึ่งกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมีความต้องการค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ จะพบว่าปริมาณบ้านเดี่ยวในระดับราคา 40 ล้านบาทขึ้นไปในรัศมี 5 กิโลเมตร จากใจกลางเมืองสุขุมวิท สีลม สาทร ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีปริมาณการเปิดขายสะสมประมาณ 283 ยูนิต ขณะที่อีก 1,500 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวในระดับราคาเดียวกันซึ่งอยู่รอบนอกเมือง โดยอัตราการดูดซับในตลาดนี้แบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้จะนิยมซื้อเมื่อเห็นโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ หรือโครงการมีการก่อสร้างบ้านตัวอย่างแล้ว ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าโครงการควอเตอร์ 39 จะสามารถปิดการขายในเวลารวดเร็วหลังจากลูกค้าได้ชมบ้านตัวอย่างแล้ว

ด้านนายสรวิศ ชัยโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท คูน แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะผู้ร่วมทุน กล่าวว่าถือว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการรุกตลาดโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนใจกลางเมือง โดยดูที่สามารถปิดการขายโครงการควอเตอร์ ทองหล่อ บ้านเดี่ยว 8 ยูนิต บริเวณซอยทองหล่อ ราคาเริ่มต้น 60-100 ล้านบาท และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งจะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าในปลายปีหน้า ส่วนโครงการควอเตอร์ 31 บริเวณซอยสุขุมวิท 31 เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น จำนวน 20 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 8 ยูนิต หรือราว 40%

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้นำที่ดินใจกลางกรุงเทพฯ มาเสนอขายให้บริษัทค่อนข้างมาก ขณะที่หาขนาดที่ดินที่ราคาเหมาะสมในการพัฒนาโครงการแนวราบยากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ดี แผนร่วมทุนของบริษัทยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการออกแบบคาดว่าจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม

“ผมไม่เชื่อว่าการอยู่แบบชูว์ส บ๊อกซ์ หรือห้อง 25 ตร.ม. ซึ่งในสิงคโปร์เป็นเทรนด์เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ที่สุดแล้วก็ไม่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยระยะยาวได้ ทำให้มีผลต่อราคาผลตอบแทนการลงทุนได้ไม่สูงเท่าที่ควรจะเป็น รวมถึงส่วนต่างกำไรจากการขายต่อก็ไปได้ไม่ไกล ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาและเตรียมจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ จะเน้นขนาดห้องที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยในระยะยาว และราคาต้องไปด้วยกันกับคุณภาพด้วย”นายสรวิศ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน