นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยในงานการประชุมวิชาการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) หรือ OIE Forum ประจำปี 2560 ว่า ภายในสัปดาห์นี้จะหารือถึงแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มสู่อุตสาหกรรมไบโอชีวภาพ และยกระดับผลไม้ไทยซึ่งเป็นจุดแข็งในพื้นที่ไปสู่ตลาดโลก

“เราจะเน้นการเพิ่มมูลค่าทางการเกษตรในอีอีซีผลไม้ที่เข้มแข็งต้นน้ำ โดยการจัดโซนนิ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการอยู่แล้ว พร้อมยืนยันไม่เกิดปัญหาการแย่งพื้นที่กับภาคเกษตรแน่นอนเพราะมีการประกาศเป็นเขตส่งเสริมพิเศษของภาคอุตสาหกรรมไว้ชัดเจนแล้ว ส่วนการทำเกษตรกลางน้ำและปลายน้ำในอีอีซียังมีจุดอ่อนด้านการตลาด รวมถึงระบบขนส่งที่ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป”นายอุตตมกล่าว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซีพ.ศ…จะบรรจุเข้าสู่วาระพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ และประกาศใช้ภายในสิ้นปี ช่วยจูงใจการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายได้มากขึ้น

นายอุตตม กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เพิ่มเติมว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ก.ค. 2560 กระทรวงการคลังอาจเสนอให้ขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อผ่านบรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จากปัจจุบันอยู่ที่ 23.75% เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มีปัญหาด้านการเงินและอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินบาท ในวงเงินค้ำประกันที่เหลือถึง 83,000 ล้านบาท จากยอดวงเงินรวมโครงการ 100,000 ล้านบาท

“มาตรการที่เสนอครม.จะทำเป็นแพ็กเกจ เมื่อครม. อนุมัติแล้ว สมาคมธนาคารไทยจะรับไปดำเนินการในรายละเอียด คาดใช้เวลา 2-3 สัปดาห์จะแล้วเสร็จและดำเนินการได้เป็นรูปธรรม”นายอุตตมกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน