นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจครึ่งปีหลัง 2560 เตรียมเปิด 39 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 36,200 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มอสังหาฯพรีเมียม 6,500 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ แวลูทั่วไป 29,700 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 32 โครงการใหม่ รวมแล้วปีนี้เปิด 72 โครงการ มูลค่ารวม 68,300 ล้านบาท โดยที่ปัจจุบันโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้นกว่า 180 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 90,000 ล้านบาท
โดยครึ่งปีแรกบริษัททำยอดขายได้แล้ว 26,150 ล้านบาท เติบโต 20.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งโตกว่าตลาดที่มีการเติบโต 15.9% เนื่องจากบริษัทมีการปรับตัวหันไปรุกตลาดพรีเมียมทั้งคอนโดและบ้านเดี่ยวมากขึ้น และในช่วงครึ่งปีหลังจะใช้กลยุทธ์เน้นขายบ้านพร้อมอยู่ 5-10 ล้านบาทมากขึ้น เพราะมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อต่ำกว่ากลุ่มบ้านเดี่ยว 3-5 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าทั้งปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 52,900 ล้านบาท ขณะที่รายได้ครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวม 20,554 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 14% เนื่องจากปีก่อนมีฐานที่สูง จากมาตรการลดหย่อนภาษีอสังหาฯ ทำให้มีการเร่งโอนค่อนข้างมาก
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาฯ พรีเมียมครึ่งปีแรกมียอดขายกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทปรับธุรกิจมาถูกทาง ทำให้ตั้งเป้ารายได้ภายใน 2-3 ปี จากนี้ ธุรกิจพรีเมียมจะมีรายได้ 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของรายได้รวมกลุ่มพฤกษา จากปัจจุบัน 3.6% ซึ่งกลุ่มพรีเมียมมีอัตรากำไรขั้นต่ำในระดับเริ่มต้นที่ 35-36%
ในครึ่งปีหลังกลุ่มพรีเมียมเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ประกอบด้วยโครงการเดอะ รีเซิร์ฟ พหลโยธิน-ประดิพัทธ์ มูลค่า 1,700 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม สูง 29 ชั้น รวม 298 ยูนิต ออกแบบให้เป็นห้องชุด 1 ห้องนอน เพดานสูง ขนาดเริ่มที่ 28.40-38.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท โดยจะเปิดห้องตัวอย่างในปลายเดือนส.ค. และเปิดขายในเดือนก.ย.นี้ รวมถึงในไตรมาส 4 เตรียมเปิดตัวโครงการเดอะรีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61 และบ้านเดี่ยวพรีเมียมโครงการเดอะปาล์ม ถ.กาญจนาภิเษก
“ตั้งแต่ปีที่แล้วต่อเนื่องถึงปีนี้เป็นพายุแห่งการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ทำธุรกิจนี้มา และมีผลทำให้เกิดการปรับโครงสร้างทุกองค์กรในระดับท็อป 5 ของธุรกิจอสังหาฯ หรือจะเรียกว่าเป็นเจแปนนิส อินเวสเตอร์ เอ็ฟเฟค ก็ว่าได้ เมื่อก่อนนักลงทุนญี่ปุ่นมาลงทุนอุตสหากรรมรถยนต์ แต่วันนี้รองจากรถยนต์ ก็คือธุรกิจอสังหาฯ ไม่ว่า เอพี แสนสิริ อนันดา และออริจิ้น ที่กำลังจะร่วมทุนกับกลุ่มทุนญี่ปุ่น จะมีเพียง เพซ ดีเวลลอปเม้นท์ เพียงกลุ่มเดียวที่มีทุนอเมริกัน อย่างอพอลโล่ เข้ามาร่วมทุน ซี่งเป็นภาวะการที่ธุรกิจอสังหาฯ ต้องการทุนใหม่เข้ามา ต้องการเทคโนโลยีด้านการออกแบบ เข้ามาเสริมธุรกิจอสังหาของไทย ขณะที่พฤกษา ขยับขึ้นมาทำตลาดพรีเมียม ถือว่ามาได้ถูกทางแล้ว เพราะจะเห็นว่าครึ่งปีแรกตลาดรวมอสังหาฯ กรุงเทพฯ ในเชิงมูลค่าเติบโต 16% ขณะที่จำนวนยูนิตโต 8% แต่จะเห็นได้ตลาดรวมที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท เติบโตถึง 56% ดังนั้นจะเห็นว่าตลาดบนเป็นตัวผลักดันให้ตลาดมีการเติบโตได้ถึง 16% เป็นตลาดคนรวยโต และการเติบโตกระจุกตัวอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่กี่ราย”นายประเสริฐ กล่าว
