นายพิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในกลุ่มประเทศอาเซียน มีแนวโน้มขยายตัวที่ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งเรื่องของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ของประชากร และพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้บริษัทเร่งศึกษาโอกาสการลงทุนตลอดจนยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจในประเทศต่างๆ เพื่อเปิดตลาดใหม่ในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น
ล่าสุด บริษัทลงนามให้สิทธิ์ แฟรนไชส์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ แก่ ซีที คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศอินโดนีเซีย ที่ครองความเป็นผู้นำธุรกิจหลากหลายประเภทมายาวนาน โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกอย่างทรานส์มาร์ท คาร์ฟูร์
การลงนามครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาทำตลาดอย่างจริงจังเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดย ทางซีที คอร์ป นอกจากจะมีการเปิดอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาแรกที่อินโดนีเซีย ในห้างทรานส์มาร์ท คาร์ฟูร์ บนพื้นที่ 2,500 ตร.ม. แล้ว ภายในเดือนก.ย.-ธ.ค. มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 4 สาขา ที่กรุงจาการ์ตา, บันดุง อย่างละ 1 สาขา และบันเติน 2 สาขา หลังจากนั้นมีแผนขยายสาขาถึงปี 2563 ปีละ 5-10 สาขาทั่วอินโดนีเซีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นด้านศักยภาพและความแข็งแกร่งของแบรนด์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ในแง่ของผลิตภัณฑ์
ด้านนายเอกฤทธิ์ ปัทมสัตยาสนธิ ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในอินโดนีเซีย ยังมีศักยภาพและเติบโตสูง เนื่องจาก 60% เป็นร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ดั้งเดิม และอีก 40% เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจเติบโต 5% รายได้ของประชากรราว 52 ล้านรูเปียห์ หรือราว 130,000 บาทต่อปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรุงจาการ์ตา ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศ มีการลงทุนสูง
อย่างไรก็ตาม การเปิดตลาดในอินโดนีเซียจะผลักดันให้สัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มจาก 8% เป็น 14% และปั้นแบรนด์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ให้เป็น แบรนด์ของภูมิภาคอาเซียน หรือ รีจินัลแบรนด์อย่างเต็มรูปแบบ
