นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวในฐานะประธานคณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพในการยกร่างแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และร่างแผนปฎิบัติการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือการค้าออนไลน์ ซึ่งได้ผ่านการประชุมระดมความคิดเห็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ในวันที่ 16 ส.ค.2560 จึงจัดประชุมคณะกรรมการขึ้นครั้งแรก เพื่อให้ความเห็นชอบร่างแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (ปี 2560-2564) และร่างแผนฎิบัติการ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าออนไลน์ของไทยเป็น 1 เท่าตัวภายใน 5 ปี

โดยในปี 2559 มูลค่าการค้าออนไลน์ของไทยอยู่ที่ 2.52 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปี 2558 12.42% ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลโดยกรมพัฒนาธุรการค้า พบว่ามีผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนไว้ประมาณ 5 แสนรายทั่วประเทศ แต่คาดว่าจะมีผู้ประกอบการค้าออนไลน์มากกว่านี้ซึ่งในอนาคตก็จะพยายามให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการเองที่จะได้รับจากภาครัฐ

สำหรับเนื้อหาหลักๆ ของร่างดังกล่าวประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ คือ 1.เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ ประกอบด้วยกลยุทธ์ การสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการภายในประเทศ ให้ผู้ประกอบการเดิมสามารถส่งออกสินค้าได้ พัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่ม มีมาตรฐานรับรอง พัฒนาแพ็กเกจจิ้ง เป็นต้น

2. เสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำการค้าออนไลน์ และอำนวยความสะดวกทางการค้าสู่สากล ประกอบด้วยกลยุทธ์ การยกระดับการชำระเงินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิสภาพ พัฒนาระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร เชื่อมโยงระบบภาครัฐเพื่อลดขั้นตอน เป็นต้น

3.เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพปัจจัยปัจจัยสนับสนุน ประกอบด้วยกลยุทธ์ การพัฒนาองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายการเรียนรู้แบบบูรณาการ พัฒนาคลังข้อมูลเพื่อต่อยอดการค้าออนไลน์เพื่อประโยชน์ในเชิงธุรกิจ ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและมาตรการจูงใจ และลดอุปสรรค ด้วยการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบ เป็นต้น

4. สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อและผู้ขาย ประกอบด้วยกลยุทธ์ การพัฒนากลไลการกำกับดูแลตนเองเพื่อเป็นแนวปฎิบัติที่ดี สร้างกลไลการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน