นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงพาณิชย์ครอบรอบ 97 ปี “วันพาณิชย์” ปี 2560 ว่า กระทรวงพาณิชย์น้อมนำเอาศาสตร์พระราชามาใช้กับการค้าของไทยในปัจจุบัน โดยในการดูแลค่าครองชีพนั้น เน้นเรื่องความพอเพียง และสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย
ขณะเดียวกันยังจะร่วมกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่จะให้สิทธิ์ที่ถือบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ใช้ชำระค่าสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ ในวงเงิน 100 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจและสอดคล้องกับแนวความคิดของนักวิชาการที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินสดจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยขณะนี้ได้เร่งเพิ่มจำนวนร้านธงฟ้าประชารัฐ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงสินค้าราคาถูก
ขณะเดียวกันการดูแลราคาสินค้าเกษตร ก็เน้นการดูแลเสถียรภาพราคา และให้เกษตรกรสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่เน้นมาตรการกระตุ้นที่ใช้เพียงเฉพาะบางช่วงเวลาจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งระบบการค้า เหมือนในอดีต นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรไทย เพื่อช่วยให้ราคาสินค้าเกษตร ที่สำคัญของไทยไม่ตกต่ำ และสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน ผ่านนโยบายเศรษฐกิจฐานราก หรือ Local Economy ที่มีการพัฒนาและยกระดับตลาดชุมชน ให้สามารถขายสินค้าท้องถิ่นได้มากขึ้น ควบคู่กับการขยายการค้าไปยังต่างประเทศ และเจรจาการค้า มั่นใจว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัว 5% ตามเป้าหมาย
โดยในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งระบายข้าวในสต๊อกไปแล้วกว่า 13 ล้านตัน ลดภาระและแรงกดดันจากก่อนหน้านี้ ที่มีการรับจำนำทำให้ข้าวในสต๊อกสูงถึง 18 ล้านตัน และทำให้ราคาข้าวเริ่มปรับตัวดีขึ้น เข้าสู่ภาวะปกติ โดยราคาข้าวเปลือกเจ้า ขณะนี้อยู่ที่ ตันละ 8,400 บาท ราคาข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 10,000-11,000 บาทต่อตัน และราคาข้าวหอมมะลิส่งออกอยู่ที่ 793 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่การดูแลค่าครองชีพนั้น ได้ดูแลราคาสินค้าให้เป็นไปตามกลไกตลาด ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น จนสามารถช่วยลดค่าครองชีพได้กว่า 86,000 ล้านบาท สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 270,000 ล้านบาท
