นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อประเมินสถานการณ์ค่าบาทแข็งต่อเนื่องยาวนานมา 7 เดือนต่อเนื่องในอัตราแข็งค่าขึ้น 7% มาอยู่ที่อัตรา 33.2 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากต้นปี 2560 การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเดียวกันบาทไทยถือว่าแข็งค่าที่สุด แม้ไม่กระทบกับการท่องเที่ยว ที่จะฉุดยอดรวมของรายได้ประเทศให้ติดลบ แต่อาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยเมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลงจากเป้ามที่วางไว้
“คงต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ททท. และเอกชน เพื่อเตรียมรับมือปรับกลยุทธ์ รับมือการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่อาจกระทบเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งค่าเงินแข็งยอมรับว่าเป็นทั้งภูมิภาค แต่บาทไทยมีอัตราแข็งค่ากว่าประเทศอื่นๆ”
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวเดือนก.ค. 2560 จำนวนนักท่องเที่ยวมุสลิม จากหลายประเทศปรับตัวลดลงอย่างมาก หลังจากเดือนมิ.ย. ยอดนักท่องเที่ยวมุสลิมมีการเติบโตมาก เนื่องจากเทศกาลวันอีดอิรฟิตริ์ หรือ วันตรุษมุสลิม ที่ผู้คนที่นับถือศาสนาอิสลามจะต้องเดินทางท่องเที่ยว และใช้จ่ายเพื่อเฉลิมฉลอง เมื่อสิ้นสุดเดือนมิ.ย.เข้าสู่เดือนก.ค.นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากนักท่องเที่ยวมุสลิมจึงลดลงอย่างมาก นำโดย อียิปต์ มีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวในไทยลดลง 24% จากเดือนก่อน อินโดนีเซีย มีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวในไทยลดลง 21% จากเดือนก่อน มาเลเซีย มีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวในไทยลดลง 16% จากเดือนก่อน และบังกลาเทศ มีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวในไทยลดลง 11% จากเดือนก่อน
ส่วนการท่องเที่ยว 7 เดือนแรกของปี 2560 (ม.ค.-ก.ค.) มีรายได้รวม 1.486 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.25% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งสิ้น 20.41 ล้านคน ขยายตัว 4.47% แบ่งเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 1.033 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.07% และการท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวไทย 4.53 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.65% ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย ที่มีการเก็บตัวเลขช้ากว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 เดือน คือ
ล่าสุดยอดยอดตั้งแต่ม.ค.-มิ.ย. การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจำนวน 71.38 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 6.5%
อย่างไรก็ตาม จากความเชื่อมั่นภาคธุรกิจท่องเที่ยวโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจโลก ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อนื่อง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยด้วย แต่ยังมีปัจจัยลบที่น่ากังวลคือเรื่องของอุทกภัยในหลายเมืองในตอนใต้ของจีน ซึ่งสถานการณ์นี้ไทยน่าจะต้องจับตามองว่า ในเดือนต.ค.นี้ จะกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวหรือไม่
ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากเรื่องค่าเงินบาทแข็งในอัตรา 10% ถึงจะกระทบกับธุรกิจ แต่ในปัจจุบันการแข็งค่าอยู่ที่อัตราประมาณ 7% จึงยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ขณะที่ศูนย์วิจัยข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของกสิกรไทยมองว่าการเปรียบเทียบเรื่องค่าเงินบาทแข็งกับการท่องเที่ยวจะต้องเทียบกับอัตราค่าเงินของประเทศนั้นๆ ด้วย
