นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมและจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันบางจาก เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะมีสถานีบริการน้ำมันรวม 1,300-1,500 แห่งทั่วประเทศ จากภายในสิ้นปีนี้มั่นใจว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันรวม 1,100 สาขา

สำหรับสถานการณ์ราคาค่าการกลั่นในช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะอยู่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าครึ่งปีแรกซึ่งอยู่ที่ระดับ 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่คาดการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 1.11 แสนบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ทำได้ 1.12 แสนบาร์เรล/วัน

ล่าสุด บริษัท BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบางจากฯ ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน Lithium Americas Corp. หรือ LAC ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต ประเทศแคนาดา ซึ่งดำเนินโครงการเหมืองลิเทียมรายใหญ่ ที่ประเทศอาร์เจนตินาและประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 50 ล้านหุ้น จากเดิมที่มีการถือหุ้นอยู่แล้ว 20 ล้านหุ้น

ซึ่งการเข้าซื้อในครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 16% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยการลงทุนในลิเทียมบริษัทมองว่าจะได้รับอานิสงส์จากธุรกิจการผลิตแบตเตอรี่ทั้งเพื่อใช้ในสมาร์ตโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่สำรองพลังงานจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมจะเติบโตอย่างมากในอนาคต ซึ่งคาดว่าภายในปี 2568 ความต้องการใช้ลิเทียมจะเพิ่มขึ้นราว 5 เท่า และภายในปี 2583 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 3 ล้านตัน/ปี และหลังจากนั้นความต้องการจะเริ่มลดลงภายในปี 2588 เนื่องจากคาดว่าจะมีเทคโนโลยีในการนำแบตเตอรี่กลับมาใช้ใหม่ (รีไซเคิล) จะเริ่มเข้ามา

โดยปัจจุบัน LAC อยู่ระหว่างเตรียมโครงการเหมืองแร่ลิเทียม Cauchari Olaroz ในประเทศอาร์เจนตินา และจะเริ่มผลิตแร่ลิเทียมในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3 ของปี 2562 ซึ่งกำลังการผลิตระยะแรกที่ 15,000 ตัน/ปี และปรับเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 ตัน/ปี หลังจากนั้นภายใน 2 ปีจะเพิ่มกำลังผลิตเป็น 50,000 ตัน/ปี ซึ่งแล้วจะทำให้การผลิตของเหมือง Cauchari Olaroz เป็นแหล่งผลิตลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีต้นทุนต่ำเพียงราว 2.5 พันเหรียญ/ตัน เนื่องจากเป็นการผลิตโดยใช้น้ำเกลือ ซึ่งปัจจุบันมีราคารับซื้อในตลาดอยู่ที่ 10,000-12,000 เหรียญ/ตัน

ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการเหมืองลิเทียม NEVADA สหรัฐ คาดว่าจะใช้เวลา 1 ปี และขั้นตอนการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก่อนที่จะเริ่มผลิตได้ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า โดยจุดเด่นของโครงการ NEVADA คือมีที่ตั้งใกล้กับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน