นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวในโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานประกอบการในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมหารือแนวทางความร่วมมือในลักษณะประชารัฐ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคอีสาน ว่านอกจากกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินมาตรการสนับสนุนช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและจำนวนที่มากขึ้นตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงยังมีมาตรการส่งเสริมที่ไม่ใช่การเงิน เช่น มาตรการเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต มาตรการเพิ่มศักยภาพด้านการเงินและการบัญชี มาตรการยกระดับมาตรฐานสินค้า มาตรการส่งเสริมด้านการตลาด มาตรการยกระดับศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอรวมทั้งการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และการพัฒนาพื้นที่อย่างมีศักยภาพ เพื่อรองรับการลงทุน

โดยในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีการพัฒนาพื้นที่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น และมุกดาหาร ที่ปัจจุบันได้จัดทำแผนพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังได้ทำการศึกษาพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีความหนาแน่น และพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตสูงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด คือ นครราชสีมา ขอนแก่น ร้อยเอ็ด อุดรธานี หนองคาย อุบลราชธานี และนครพนม เพื่อกำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมารมว.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่ จ.มุกดาหารและได้ร่วมหารือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนในพื้นที่ และได้สั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พิจารณาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้เพิ่มขึ้นในพื้นที่

นอกจากนี้ ยังได้เดินทางเยี่ยมชมบริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของรถยนต์ที่สำคัญของไทย มีเทคโนโลยีและโนว์ฮาวการผลิตระดับสูง มีฐานที่มั่นคง สถานะการเงินที่แข็งแกร่งและได้รับการยอมรับอย่างสูงจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรปมากว่า 30 ปี

สำหรับบริษัท พี.ซี.เอส.แมชชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล มีการจ้างงานคนงานจำนวนมากในนครราชสีมา โดยได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาช่วยในกระบวนการหล่อโลหะและตกแต่งชิ้นงาน รวมทั้งพัฒนาด้านการอนุรักษ์พลังงาน โดยการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าบนหลังคารายใหญ่ในประเทศ

สำหรับการเยี่ยมชมบริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและแปรรูปแป้งมันสำปะหลังที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก มีกำลังการผลิตสูงถึงประมาณ 2,400 ตันต่อวัน โดย 80% ของแป้งมันที่ผลิตได้ถูกส่งออก โดยมีตลาดหลักอยู่ ที่ประเทศจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และบางประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป นับเป็นอุตสาหกรรมที่เน้นต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร

บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด ถือเป็นโรงงานรายแรกๆ ที่นำเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาด้านการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง เช่น นำน้ำเสียจากการล้างหัวมันสำปะหลัง และกากมันสำปะหลังมาผลิตไบโอแก๊ส นำแก๊สกลับมาใช้ในโรงงานแทนเชื้อเพลิงอื่นๆ และนำไปปั่น/ผลิตกระแสไฟฟ้าส่งขายให้การไฟฟ้า มีการนำไอความร้อนที่เกิดจากเครื่องปั่นไฟฟ้ากลับมาแลกเปลี่ยนความร้อนเป็นพลังงานอีกครั้ง และมีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน