นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. คาดว่าสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยในไตรมาส 4 ปี 2560 จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และสร้างรายได้เติบโตประมาณ 23% ซึ่งตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตดี ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา กลุ่ม กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) ยุโรปตะวันออก อินเดีย อิสราเอล และแอฟริกาใต้
ทั้งนี้ ททท. เตรียมเฝ้าระวัง 3 ปัจจัยเสี่ยงกระทบภาคการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ได้แก่ 1.ขีดความสามาถของสนามบินไทยในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มสำคัญอย่าง นักท่องเที่ยวชาวจีนที่คาดว่าจะเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 กว่า 71% จาก ที่เคยลดลงไปกว่า 22% เนื่องจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ
2. สถานการณ์ยุโรปยังไม่แน่นอนในเรื่องเศรษฐกิจ เช่น เบร็กซิต, การเลือกตั้งในประเทศเยอรมนี และอิตาลี ทำให้ค่าเงินยูโร และค่าเงินปอนด์อาจเกิดการผันผวน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะอยู่ในช่วงปลายปี 2560 ทั้งหมด และ 3. นโยบายด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ จากปัจจัยเรื่องการก่อการร้ายทำให้ มีปัญหาเรื่องเส้นทางการบินเชื่อมโยงจากตลาดระยะไกล
ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า แนวโน้มการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนกระจายตัวไปสู่ช่วงเวลาอื่นๆ มากขึ้น ไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะช่วงวันหยุดยาว (โกลเด้นวีก) ของชาวจีนแล้ว แต่จะให้ความสำคัญกับช่วงตรุษจีนและปีใหม่มากกว่า แต่ทั้งนี้ ยังเชื่อมั่นว่าภาพรวมตลอดปีตลาดจีนยังเติบโตได้ดี แม้ว่าหลายฝ่ายแสดงความกังวลด้านเศรษฐกิจ แต่การเติบโตของจีดีพีของจีนยังน่าจะขยายตัวได้กว่า 6% ยังคงเพียงพอเป็นปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อในการเดินทางไปต่างประเทศ
แนวโน้มการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนกระจายตัวไปสู่ช่วงเวลาอื่นๆ มากขึ้น ไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะช่วงโกลเด้นวีกแล้ว แต่จะให้ความสำคัญกับช่วงตรุษจีนและปีใหม่มากกว่า แต่ทั้งนี้ ยังเชื่อมั่นว่าภาพรวมตลอดปีตลาดจีนยังเติบโตได้ดี แม้ว่าหลายฝ่ายแสดงความกังวลด้านเศรษฐกิจ แต่การเติบโตของจีดีพีของจีนยังน่าจะขยายตัวได้กว่า 6% ยังคงเพียงพอเป็นปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อในการเดินทางไปต่างประเทศ
“เศรษฐกิจจีนไม่น่ากังวลอย่างที่คิด เพราะหากจีดีพียังขยายตัวกว่า 5% ได้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแล้ว แต่สิ่งที่ต้องจับตามากกว่าคือ การแข่งขันจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ประเทศที่มาแรงในการดึงดูดตลาดจีนคือ ฟิลิปปินส์ ซึ่งแต่ก่อนอาจจะมีข้อพิพาททางการเมือง แต่เมื่อเข้าสู่ยุคของประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ มีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการเมือง ส่งผลให้การท่องเที่ยวเติบโตขึ้นด้วย และขณะนี้ฟิลิปปินส์ ก็กำลังมองแนวคิดว่าอาจพิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน เหมือนกับที่ไทยเคยนำมาใช้ด้วย”
