นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ทอท. จ้าง PCS Joint Venture ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่ออุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) เป็นเงิน 13,303,738,317.80 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นเงิน 931,261,682.24 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,235,000,000 บาท เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นเงิน 14,235,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคากลาง เป็นเงิน 1,941,903,875.06 บาท หรือคิดเป็น 12%

มีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 660 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งให้เริ่มงานก่อสร้าง (Notice to Proceed) จาก ทอท. ทั้งนี้ โครงการพัฒนา ทสภ. การก่อสร้างจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2562 และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2563

นอกจากนี้ บอร์ดยังอนุมัติ ให้บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง มีอายุสัญญา 10 ปี

เนื่องจากคิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ได้คะแนนรวมสูงสุด โดยได้เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเป็นเงินจำนวน 17,651,120 บาท และจากการเจรจาต่อรอง บริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ยินดีเพิ่มค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้อีกเดือนละ 31,280 บาท รวมเป็นค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนปีแรก เดือนละ 17,682,400 บาท โดยมี อายุสัญญา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ ทอท. ส่งมอบพื้นที่ และ ทอท. จะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนจาก การประกอบกิจการโครงการฯ ในอัตรา 15% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อน หักค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น หรือตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือน แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า

ทั้งนี้ ทอท.จะปรับการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป ในอัตรา 10% ของปีก่อนหน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน