แมกโนเลียส่งทีมพัฒนา ‘วิสซ์ดอม’ ซุ่มคุยแลนด์ลอร์ดกลางกรุงผุดโมเดลมิกซ์ยูส

นายอัษฏา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการ-วิสซ์ดอม บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอ็มคิวดีซี) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงแนวคิดพัฒนาอรรถประโยชน์การใช้ที่ดินให้เป็นประโยชน์สูงสุด และออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยได้จริงอย่างยั่งยืนและเน้นประโยชน์ในการใช้พื้นที่สูงสุด

นอกจากนี้เพื่อแก้โจทย์ที่ดินใจกลางเมืองที่ราคาค่อนข้างแพงและเริ่มหายากขึ้น ทำให้บริษัทได้วางกลยุทธ์ในการหาพันธมิตรซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน (แลนด์ลอร์ด) เพื่อสร้างกลไกที่ทำให้ทุกอย่างลงตัว เนื่องจากบริษัทมองว่าเมื่อที่ดินใจกลางเมืองถูกพัฒนาไปได้ระดับหนึ่งแล้ว และราคาคอนโดมิเนียมต่อตร.ม.แพงมากๆ สุดท้ายต้องมีกลไกที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาลงตัว ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาหลายๆ โมเดล เพื่อให้ราคาขายสมเหตุสมผลมากที่สุด

โดยแผนธุรกิจในปี 2561 บริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 5-6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นโครงการทาวน์โฮม ระดับราคาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาทอยู่ด้วย โดยที่บริษัทวางเป้าหมายยอดขายทุกโครงการในปีหน้าไว้ประมาณ 80-90% เริ่มจากช่วงต้นปีจะเปิดขายคอนโดมิเนียม 2 โครงการแรก ประกอบด้วยวิสซ์ดอม ไชน่า ทาวน์ บนที่ดิน 2 ไร่ ติดโรงแรมบางกอก บาร์ซา ติดรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีหัวลำโพง เป็นอาคารสูง 30 ชั้น มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดกว่า 200 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มที่ 35 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 7 ล้านบาทเศษ หรือราว 2 แสนบาทเศษ/ตร.ม. อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีลูกค้าที่ต้องการซื้อเต็มโควตาแล้วทั้งที่ยังไม่เปิดขาย

ส่วนอีกโครงการวิสซ์ดอม อโศก เนื้อที่ 4 ไร่ บริเวณตลาดนัดปลาวาฬ ติดอาคารเลครัชดา ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาแบบเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นโครงการมิกซ์ยูส และมีห้องชุดพักอาศัยประมาณ 600 ยูนิต ส่วนราคาประมาณ 3 แสนบาท/ตร.ม.

สำหรับแผนธุรกิจครึ่งหลังของปี 2560 เน้นโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยเฉพาะโครงการวิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา ลาพร้าว บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ สูง 27 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 497 ยูนิต มูลค่า 2.7 พันล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 90% ส่วนความคืบหน้าโครงการวิสซ์ดอม 101 บริเวณถนนสุขุมวิท 101 โดยอาคารแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จเตรียมส่งมอบให้ลูกค้าต้นปีหน้า เช่นเดียวกับโครงการรัชดา-ท่าพระ หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี ปัจจุบันมียอดจองแล้วกกว่า 90%

“ยอมรับคอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมืองมีการแข่งขันสูง แต่ทำเลเป็นตัวบ่งบอกและสินค้าเป็นตัวจำแนกโครงการคุณภาพออกมา ตอนนี้กลุ่มผู้บริโภคไทยที่มีรายได้สูงยังมีอยู่พอประมาณ แต่ตลาดนี้จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก เพียงแต่ขณะนี้เป็นจังหวะของคนมีกำลังซื้อ ประกอบกับปัจจุบันที่ดินในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ มีน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้คนที่มีกำลังซื้อสูง นิยมซื้อเก็บไว้”นายอัษฏา กล่าว