นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ไทยไม่มีสต๊อกของรัฐบาลมากดดันเรื่องราคาข้าว มีข้าวคุณภาพมากขึ้นเกษตรกรดูแลใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ บางประเทศผู้ผลิตข้าวยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คือ อินเดีย และบัคลาเทศ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะแข่งขันในตลาดข้าวได้มากขึ้น โดยหวังว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะผลักดันให้ข้าวที่กำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงปลายปีนี้ประเภทหอมมะลิที่ 1.1-1.2 หมื่นบาทต่อตันข้าวเปลือก ข้าวขาวซึ่งมีปริมาณมากที่สุด มีราคาสูงกว่า 8,000-9,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก

ส่วนค่าบาทแข็งยาวนานจนขณะนี้แข็งค่าขึ้น 8% สูงสุดในภูมิภาค ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และรัฐบาลยังไม่มีแนวทางป้องกัน จึงคาดว่าจะส่งผลอย่างยิ่งต่อการส่งออก และทำให้ส่วนต่างการส่งออกของข้าวไทยกับคู่แข่งอย่างเวียดนาม กว้างมากขึ้น 24 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ส่งผลให้การตัดสินใจสั่งซื้อข้าวลดลง ผู้ส่งออกยังหวังว่ารัฐบาลและธปท. จะมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

“ราคาข้าวของเวียดนามที่ต่ำกว่าของไทยมาก ทำให้การประมูลซื้อข้าวของฟิลิปปินส์ เวียดนามคว้าไปเกือบทั้งหมด ในขณะที่อินโดนีเซีย ยังไม่ชัดเจนว่าปีนี้จะเปิดประมูลซื้อข้าวหรือไม่เพราะผลผลิตในประเทศอาจจะเพียงพอกับความต้องการ ดังนั้นแนวโน้มราคาข้าวที่จะออกสู่ตลาดสิ้นปีนี้ จึงเป็นไปได้ยากที่จะผลักดันให้ถึงตามเป้า”

นายเจริญ กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกข้าวไม่ได้เลวร้ายมากนักเพราะมีคำสั่งซื้อข้าวนึ่งเข้ามาจำนวนมาก แต่คงไม่มากพอที่จะกระตุ้นราคาข้าวช่วงปลายปีให้สูงขึ้นได้ ส่วนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในยุ้งฉางที่รัฐบาลประกาศไปแล้วจะช่วยพยุงราคาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นทางออกที่ดี ในกรณีที่เกษตรกรมียุ้งฉางเป็นของตัวเอง ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีก็ต้องขายเข้าโรงสีตามราคาตลาด

แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรฯ ในปี 2560/61 กล่าวว่า ผลผลิตข้าวโลก จะมีประมาณ 482.459 ล้านตัน ลดลง 0.27% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาเหนือ แอฟฟริกา และอินเดีย มีแนวโน้มลดลง สำหรับการบริโภคข้าวโลก คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 479.07 ล้านตัน ลดลง 0.26% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนการค้าข้าวโลกจะมีประมาณ 43.92 ล้านตัน ลดลง 1.39% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่สต๊อกข้าวโลก คาดว่าจะมีประมาณ 122.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.96% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับแนวโน้มการส่งออกข้าวของไทย ตามการรายงานของสมาคมผู้ส่งออกข้าวเมื่อต้นเดือนก.ย. ระบุว่า ปริมาณส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากคำสั่งซื้อลดลง ประกอบกับผู้ซื้อบางส่วนชะลอการซื้อ เพราะใกล้เข้าสู่ช่วงผลผลิตฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด คาดว่าราคาจะอ่อนตัวลง ยกเว้นข้าวหอมมะลิ ราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากผลกระทบจากพายุโซนร้อนเซินกา ทำให้พื้นที่ปลูกภาคอีสานได้รับความเสียหาย แต่ความต้องการผู้บริโภคในประเทศยังคงมีสูงขึ้น

ด้านราคาข้าวหอมมะลิ ราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากผลกระทบโซนร้อนเซินกา โดยข้าวขาว 5% ราคามีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย

ส่วนข้าวเหนียว ราคามีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาข้าวเหนียวปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าราคาข้าวหอมมะลิอย่างผิดปกติ ส่งผลให้ปี 2560/61 เกษตรกรปลูกข้าวเหนียวมากขึ้น ผลผลิตจึงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน