นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย เดือนส.ค. 2560 อยู่ที่ระดับ 85.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 83.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่มีความเชื่อมั่นมากขึ้นตามคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต และผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 เป็นปัจจัยบวกให้ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 101.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ 101.6 ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น ประกอบกับเชื่อว่ารัฐจะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2560 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้น

โดยเฉพาะการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบพ.ร.บ.อีอีซี แล้วถือเป็นเรื่องที่ดี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และทำให้คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนน่าจะมีเป็นไปตามเป้าหมายที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งเป้าไว้ 600,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ จึงอยากให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เช่น ปรับลดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อ การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม รวมทั้งยังเห็นด้วยกับแนวคิดปลัดกระทรวงการคลังที่เสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5% เพื่อชะลอการไหลเข้าของเงินทุนและกระตุ้นการลงทุนในประเทศให้มากขึ้น

นายเจน ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มว่าภาคเอกชนไม่ได้มีความเห็นคัดค้าน แต่แต่มีความกังวลว่าจะทำให้เกิดปัญหาการลักลอบนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผิดกฎหมาย จึงอยากฝากภาครัฐให้ติดตามดูแลให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้การปรับขึ้นภาษีครั้งไม่มีความหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน