นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทใช้เงินลงทุนกว่า 3,140 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อกิจการทั้งหมดในธุรกิจพรมเพื่อการพาณิชย์ จาก บริษัท ไทปิง คาร์เปท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งประกอบด้วยบริษัทผลิตและจำหน่ายพรมในประเทศไทย คือ คาร์เปท อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทจัดจำหน่ายพรมที่จดทะเบียนในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเก๊า และอินเดีย

สำหรับแบรนด์ที่จะใช้ในการขายพรมหลังการควบรวมกิจการในครั้งนี้ บริษัทตัดสินใจที่มุ่งทำการตลาดโดยใช้แบรนด์ รอยัลไทย และ คาร์เปทอินเตอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทย เพื่อใช้เจาะตลาดทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย โดยบริษัทจะเลิกใช้แบรนด์ไทปิงที่ถือลิขสิทธิ์ในประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 50 ปี
เพื่อช่วยทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ แบรนด์ รอยัลไทย ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ประกอบกับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งให้บริษัทที่มีธุรกิจหลักคือ พรม และยังมีในส่วนของธุรกิจผ้าหุ้มเบาะ และพรมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้เข้าซื้อกิจการมาก่อนหน้านี้

อีกทั้งหลังจากเข้าซื้อครั้งนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ของบริษัทใหม่ ในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้ สูงกว่า 7,400 ล้านบาท และในปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มกว่า 30 % หรือราว 10,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดจากรายได้รวมจากการเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้ ผนวกกับรายได้ของบริษัทฯ และบริษัทลูกที่ได้เข้าซื้อธุรกิจมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือ บริษัท ที.ซี.เอซ ซูมิโนเอะ ผู้ผลิตที่ทำธุรกิจ ผ้าหุ้มเบาะและพรมในรถยนต์ รวมถึง อัลสตันส์ และ บริษัท ดีเอ็มเอ็ม ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอังกฤษ นับเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังจากที่ทางบริษัทได้เริ่มใช้กลยุทธ์การควบรวมกิจการ (เอ็มแอนด์เอ) ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน