นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อานิสงส์จากตลาดหุ้นที่ปรับตัวในทิศทางดี ล่าสุดมีการประเมินกันว่าดัชนีหุ้นไทยปี 2561 จะขึ้นไปถึง 1,800-1,900 จุด จะส่งเสริมให้ตลาดคอนโดมิเนียมปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า มีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากปีนี้ที่ตลาดได้แรงขับเคลื่อนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ของผู้ประกอบการขนาดใหญ่และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ที่จะผลักดันให้ตลาดเติบโตได้ประมาณ 5-10%
นอกจากนี้ แรงขับเคลื่อนจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่ขณะนี้ประกาศซื้อที่ดินทั้งผ่านทั้งช่องทางสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ เหตุผลเพราะต้นทุนดอกเบี้ยที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ได้ค่อนข้างต่ำมาก เมื่อเทียบกับการปรับขึ้นของราคาที่ดินในแต่ละปีที่ โดยเฉพาะบริษัทที่ได้เครดิตเรตติ้งสูงกว่า BBB+ เช่นล่าสุดพฤกษาฯ ออกหุ้นกู้โดยให้อัตราดอกเบี้ยเพียงแค่ 2.27%
ทำให้ในปีนี้พฤกษาฯ วางงบซื้อที่ดิน 15,000-20,000 ล้านบาท สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยซื้อที่ดินตั้งแต่ไร่ละ 1 ล้านบาท ไปถึงตร.ว.ละ 1.5 ล้านบาท เพื่อรองรับการเปิดโครงการในปีหน้า โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมไฮเอนด์จะยังเป็นหัวหอกในการทำตลาด ส่วนทำเลที่น่าจับตาคือ ถนนสาทร ซึ่งจะมีการเปิดตัวโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงพฤกษาฯ ด้วยเช่นกัน
ในขณะที่แนวโน้มการถูกปฏิเสธสินเชื่อช่วงครึ่งปีแรกลดลงเหลือ 17-20% จากที่เคยสูงถึง 30-35% ถือเป็นสัญญาณที่ดี อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ ก็ยังมีการแข่งขันเพื่อปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย และโดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของทุกปี ผู้ประกอบการยังเตรียมโปรโมชั่นเพื่อระบายสต๊อกบ้านและคอนโดฯ รวมถึงมีการแข่งขันเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงหลังเดือนต.ค.ไปแล้ว เพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ ทำให้เป็นโอกาสดีของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
โดยล่าสุด สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ร่วมกันจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยภายในงานจะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มาร่วมจัดแสดงกว่า 1,000 โครงการ จากผู้ประกอบการรายเล็กถึงรายใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการที่มีการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติและสถาบันการเงินรวมถึงโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องรวม 200 รายมาร่วมงานครั้งนี้
สำหรับสินค้าภายในงานฯ โครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภททั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม รีสอร์ต สนามกอล์ฟ ตลอดจนที่ดินเปล่า และบ้านมือสอง บ้านมือสองซึ่งเป็นทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของธนาคาร โดยคาดว่าตลอดการจัดงาน 4 วัน จะมีผู้ชมงานกว่า 100,000 คน และมียอดขายมากกว่า 4,000 ล้านบาท รวมถึงจะมียอดขายต่อเนื่องตามหลังงานอีก 3-4 เท่าตัว รวมแล้วจะมียอดขายเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท