นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตันแจ้งว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative Office : USTR) ได้เปิดขอรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากผู้ประกอบการของสหรัฐ เพื่อใช้ประกอบการศึกษาผลกระทบกฎหมาย Buy American ของสหรัฐ ต่อความตกลงว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (Government Procurement Agreement : GPA) ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ข้อมูลที่ USTR ต้องการศึกษาประกอบการออกกฎหมาย Buy American ที่อาจส่งผลต่อ GPA ครอบคลุมประเด็นดังต่อไปนี้
1. ประสบการณ์ของบริษัทในฐานะของคู่สัญญาหลัก หรือผู้รับจ้างรายย่อย เกี่ยวกับ GPA 2. ผลกระทบต่อประเทศภาคี FTA ของสหรัฐ 3. ประสบการณ์ของบริษัทในฐานะคู่ค้าสัญญาหลัก หรือผู้รับจ้างรายย่อยเกี่ยวกับการเข้าร่วมประมูลสัญญา GPA ที่สหรัฐ มีความตกลง FTA หรือมีภาคีในความตกลง GPA 4. สัดส่วนมูลค่าการผลิตภายในสหรัฐ โดยเฉลี่ย ในสินค้าที่บริษัทผลิต / จำหน่ายให้กับรัฐบาลกลางของสหรัฐ
5. สัดส่วนมูลค่าการผลิตภายในสหรัฐ โดยเฉลี่ย [Average US Content] ในสินค้าที่บริษัทผลิต / จำหน่ายให้กับรัฐบาลต่างประเทศ 6. อุปสรรคหลัก 3 อันดับแรกของการมีเงื่อนไขที่กำหนดให้ต้องมีสัดส่วนมูลค่าการผลิตภายในประเทศ 111% ต่อสินค้าที่บริษัทผลิตให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐ หรือรัฐบาลต่างประเทศ
7. ผลกระทบต่อ FTA ที่มีข้อกำหนดว่าด้วย GPA รวมอยู่ด้วย 8. ผลกระทบทั้งปัจจัยบวกและลบของการมีข้อกำหนด Buy American และ 9. ประสบการณ์ของบริษัทเกี่ยวกับข้อขัดแย้งระหว่างข้อกำหนด Buy American และข้อกำหนดภายใต้ FTA ที่สหรัฐ เป็นภาคี เพื่อ USTR จะเตรียมเสนอผลการศึกษาดังกล่าวต่อประธานาธิบดีสหรัฐ ภายในวันที่ 24 พ.ย.นี้
นายวันชัย กล่าวอีกว่า กฎหมาย Buy American เป็นกฎหมายเชิงนโยบายที่กำหนดให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาต้องจัดซื้อจัดจ้างและเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตภายในประเทศเป็นอันดับแรก ดังนั้นผู้ส่งออกไทยจึงควรติดตามความคืบหน้าการออกกฎหมายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือกับนโยบายดังกล่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยที่สหรัฐ สามารถผลิตได้ด้วยไปยังสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐ เป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามความคืบหน้าของกฎหมายดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.gpo.gov/fdsys/pkg/FR-2017-08-21/pdf/2017-17553.pdf
