นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานผลิตเสื้อผ้าของไทยหลายแห่งเร่งเพิ่มกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) จากเจ้าของสิขสิทธิ์ชุดกีฬาของสโมสรกีฬาในยุโรปและสหรัฐที่มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้ 2560 ออร์เดอร์เข้าไทยไม่ต่ำกว่า 100 ล้านตัว หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท
ส่วนใหญ่จะเป็นชุดฟุตบอลของสโมสรยุโรป เช่น ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล, เชลซี สโมสรจากประเทศอังกฤษ, เรอัลมาดริด บาร์เซโลน่า สโมสรจากสเปน, บาเยิร์น มิวนิค สโมสรจากเยอรมัน และ ยูเวนตุส จากสโมสรอิตาลี เป็นต้น
“ตอนนี้บางโรงงานมีออร์เดอร์แทบผลิตไม่ทัน และแนวโน้มชุดกีฬาจะมีเข้ามาเพิ่มต่อเนื่อง โดยปัจจุบันการส่งออกชุดกีฬาคิดเป็น 50% ของมูลค่าส่งออกเสื้อผ้าภาพรวมที่มีจำนวน 90,000 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ที่มีการพัฒนาวัตถุดิบ, เทคโนโลยีการผลิตที่ดี และความรวดเร็ว สามารถส่งสินค้าได้ทันตามกำหนด ซึ่งในปีนี้ออร์เดอร์ชุดกีฬาจากต่างประเทศมากเข้าไทยสูงสุด และในปีต่อๆ ไปก็จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”
สำหรับการสั่งออร์เดอร์ของสโมสรฟุตบอลในแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 100,000 ตัว ส่วนใหญ่จะมีการสั่งออร์เดอร์ก่อนที่จะเปิดฤดูกาลแข่งขันของแต่ละประเทศ แต่หากสโมสรใดมีผลงานดีทั้งในการแข่งขันฟุตบอลลีก ฟุตบอลถ้วยในประเทศ รวมถึงผลงานในฟุตบอลถ้วยสโมสรยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก ก็จะมีการสั่งออร์เดอร์เพิ่มรอบสองอีก เพื่อรองรับความต้องการของแฟนฟุตบอล
นายยุทธนา กล่าวว่า ขณะนี้โรงงานผลิตเสื้อผ้าของไทยได้ขยายกิจการไปต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านแล้ว 14 บริษัท มีโรงงานในต่างประเทศ 39 โรงงาน และบริษัทลูกทั้งหมดถูกไกล่เกลี่ยคำสั่งซื้อจากบริษัทแม่ในไทย จนสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ปีละ 15,000-20,000 ล้านบาท
“ตอนนี้เจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อผ้าระดับโลกให้ความสนใจในการซื้อชุดกีฬาจากไทยเป็นอย่างมากซึ่งไทยอาจเป็นศูนย์กลางการผลิตเสื้อกีฬาระดับโลกในภูมิภาคนี้ ส่วนเสื้อเชิ้ตก็จะสั่งออเดอร์ในโรงงานในเมียนมา และเวียดนาม, กางเกงยีนส์ เป็นโรงงานในกัมพูชา, เสื้อสูท ในโรงงานเมียนมา เป็นต้น
นายถาวร กนกวลีวงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน กระแสเสื้อผ้ากีฬาได้เป็นที่นิยมอย่างมากในหลายๆ ประเทศ ทำให้แบรนด์เสื้อผ้าดังๆ ระดับโลกได้พัฒนารูปแบบชุดกีฬาที่สามารถเป็นชุดทำงาน, ออกกำลังกาย,ไปเที่ยว และเชียร์กีฬา ส่งผลให้เสื้อผ้าประเภทอื่นๆ มีการขยายตัวต่ำหรือเริ่มชะลอตัว ซึ่งจะเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเพิ่มกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อชุดกีฬา
“แม้ว่าเสื้อผ้ากีฬาจะมีราคาสูงแต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะเสื้อฟุตบอลของสโมสรดังๆ ในประเทศอังกฤษมีราคา 3,000-4,000 บาทต่อตัว ในบางช่วงวางขายไม่นานมีแฟนบอลแห่เข้ามาซื้อเกลี้ยง ยิ่งทีมไหนมีการซื้อนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงหรือนักฟุตบอลที่มีค่าตัวแพงๆ เข้ามาร่วมทีมก็จะทำให้เสื้อเป็นที่ต้องการของแฟนบอลมากตามไปด้วย โดยปกติแต่จะสโมสรจะมีเปลี่ยนรูปแบบเสื้อ 2 ปีครั้งทั้งชุดแข่ง, ชุดซ้อม, ชุดแถลงข่าว, ชุดก่อนแข่งขัน, ชุดเชียร์ เป็นต้น”
นายถาวร กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตเสื้อผ้าไทยได้ขยายไปตั้งโรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมา สปป.ลาว, กัมพูชา และเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากค่าแรงขั้นต่ำ, ความเพียงพอต่อปริมาณแรงงาน และสิทธิประโยชน์ทางภาษีในกรณีการส่งออกไปประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นต้น ขณะที่ในไทยต่อไปก็จะเน้นพัฒนาในรูปแบบสำนักงานใหญ่ ทั้งการเจรจาทางธุรกิจ รวมถึงเน้นพัฒนาโรงงานให้มีศักยภาพทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการผลิตเสื้อผ้าที่มีมูลค่าสูง เป็นต้น
