นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมมีกระบวนการคัดกรองคุณภาพผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถอย่างเข้มข้นและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ มีกระบวนการให้ความรู้ผ่านการอบรมภาคทฤษฎีและทดสอบข้อเขียนตามเกณฑ์ที่กำหนด และทดสอบความสามารถในการขับรถอย่างปลอดภัยในสนามทดสอบขับรถที่ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ ยังพัฒนารูปแบบใบอนุญาตขับรถสมาร์ตการ์ดให้มีเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดที่ด้านหลังบัตร สำหรับจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นสากล และยากต่อการปลอมแปลง เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถสมาร์ตการ์ดรูปแบบใหม่แล้วจำนวนทั้งสิ้น 514,850 ฉบับ เฉพาะในกรุงเทพฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 69,621 ฉบับ

และยังมีผู้ประสงค์ขอรับใบอนุญาตขับรถอีกเป็นจำนวนมาก กรมจึงอำนวยความสะดวกเพิ่มช่องทางสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการอบรมความรู้ภาคทฤษฎี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-5 สามารถจองคิวอบรมล่วงหน้าได้ผ่านทางเว็บไซต์

ทั้งนี้ เปิดให้จองคิวออนไลน์ได้เฉพาะผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ชนิดชั่วคราว (รายใหม่ที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถมาก่อน) ผู้ที่ใบอนุญาตขับรถ สิ้นอายุเกิน 1 ปี (ต้องอบรมภาคทฤษฎีและทดสอบข้อเขียนใหม่) ผู้ที่ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุเกิน 3 ปี (ต้องอบรมภาคทฤษฎี ทดสอบข้อเขียน ทดสอบขับรถใหม่ทุกกระบวนการ) ส่วนการต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกำหนดเวลาปกติ (ต่อล่วงหน้า หรือขาดต่อไม่เกิน 1 ปี) ไม่ต้องจองคิวอบรมล่วงหน้า สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ทุกวัน ในวันและเวลาราชการ

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเว็บไซต์จองคิวอบรมออนไลน์ สามารถเข้าได้โดยตรงที่ URL: http://ebooking.dlt.go.th/ebooking/ หรือเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th เลือกเมนู “เมนูไฮไลท์” แล้วเลือกหัวข้อ “จองคิวอบรมใบขับขี่ชั่วคราว (ขอใหม่) เฉพาะสำนักงานขนส่งพื้นที่ 1-5” การสมัครลงทะเบียนต้องใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ชื่อ-สกุล ของผู้เข้ารับการอบรม และเมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนทุกช่อง ระบบจะแสดงข้อมูลการจอง ให้บันทึกหมายเลข Ticket ID และหมายเลขจองที่ รวมถึงข้อมูลสถานที่ ห้องอบรม ติดต่อตามวันและเวลาที่นัดหมาย

โดยต้องมีเอกสารประกอบการดำเนินการในวันอบรม ดังนี้ บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง (ข้อมูลในบัตรและรูปหน้าในบัตร ต้องชัดเจน) ใบรับรองแพทย์ฉบับจริงเพื่อแสดงว่าไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด (มีที่อยู่และตราประทับสถานสถานพยาบาลชัดเจน) และใบอนุญาตขับรถฉบับเดิม (ถ้ามี) เมื่อผ่านการอบรม และผ่านเกณฑ์ทดสอบข้อเขียน จึงจะสามารถนัดหมายวันเวลาทดสอบขับรถได้ โดยต้องดำเนินการสอบขับรถภายในระยะ 90 วันหลังจากผ่านการทดสอบภาคทฤษฎี

การขอรับใบอนุญาตขับรถทุกประเภท ต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกขั้นตอน ผู้อื่นไม่สามารถดำเนินการแทนได้ (ยกเว้นใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ สามารถมอบอำนาจได้) ดังนั้น หากมีผู้แอบอ้างว่าสามารถขอใบอนุญาตขับรถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการทดสอบใดๆ นั้น ผู้ที่หลงเชื่อนอกจากจะได้รับใบอนุญาตขับรถปลอมแล้ว หากตรวจสอบพบการนำเอกสารหรือใบอนุญาตขับรถปลอมมาแสดงเป็นหลักฐานกับทางราชการ ยังมีความผิดตามกฎหมายอาญาฐานใช้เอกสารปลอมด้วย กรมการขนส่งทางบกจึงขอแจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่รับอาสาดำเนินการแทนหรือรับปลอมแปลงเอกสารราชการโดยเด็ดขาด สอบถาม โทร.1584

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน