น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย เปิดเผยว่า แผนการลงทุนของกลุ่มสมาชิกสมาคมศูนย์การค้ารวมทั้งหมด 15 บริษัทในช่วงปลายปี 2560 ถึง ปี 2562 มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 57,000 ล้านบาท โดยจะเป็นงบทั้งพัฒนาโครงการใหม่ และปรับปรุงขยายพื้นที่โครงการเดิมที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในโครงการใหม่ ส่งผลให้จะมีโครงการใหม่จากปัจจุบันมีอยู่ 97 ศูนย์การค้าเป็น 107 ศูนย์การค้าทั่วประเทศ และพื้นที่โครงการจาก 19 ล้านตร.ม. เพิ่มเป็น 20.9 ล้านตร.ม.ภายในปี 2562
สำหรับโครงการใหม่ที่เป็นระดับเมกะโปรเจ็กต์จะมี 2 โครงการใหญ่จะเปิดในปี 2561 ได้แก่ เซ็นทรัล ภูเก็ต ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น และไอคอน สยาม ของบริษัท ไอคอน สยาม จำกัด ที่ร่วมทุนระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด พร้อมกันนี้ยังมีโครงการเซ็นทรัล โคราช, เซ็นทรัลพลาซา มหาชน จะเปิดในปลายปีนี้ และโครงการเทอร์มินอล 21 พัทยา รวมทั้งเดอะมาร์เก็ต แบงคอก จะเปิดปลายปีหน้า
“ศูนย์การค้าไทยพร้อมจะลงทุนต่อเนื่องในช่วง 2 ปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ ทั้งโครงการมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูงในจังหวัดหลัก ตลอดจนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่มีหลายศูนย์การค้าหลายโครงการจะเข้าไปลงทุน รวมถึงการลงทุนในโซนกรุงเทพฯตะวันออกย่านบางนา-สุวรรณภูมิ ที่เชื่อมต่อกับเขตอีอีซีด้วย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต เพราะภาคค้าปลีก คิดเป็น 15% ของจีดีพีประเทศ นับเป็นอันดับ 2 รองจากภาคอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนจีพีดีของประเทศ”
น.ส.วัลยา กล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ ยังได้พยายามที่จะผลักดันให้ภาครัฐลดภาษีสินค้านำเข้า ซึ่งหากลดภาษีนำเข้าให้เหลือ 5-15% ได้สมาคมฯ ก็พอใจแล้ว เพราะจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยได้เพิ่มขึ้นทั้งจากผู้บริโภคคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีกทั้งทำให้สามารถแข่งขันบนเวทีการค้าระดับภูมิภาคได้ดีขึ้น
สำหรับนโยบายของสมาคมศูนย์การค้าไทยในปีนี้ จะร่วมกันปรับตัวธุรกิจค้าปลีกสู่ยุคของการเป็น ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ 4.0 เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตอลที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เพราะปัจจุบันไทยถือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาศูนย์ค้าระดับโลก และเป็นผู้นำเทรนด์ที่ประเทศอื่นๆ ต้องการมาศึกษา ซึ่งหากสามารถปรับตัวให้สามารถสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ได้ จะทำให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้ธุรกิจศูนย์การค้าตั้งเป้าหมายเติบโต 4-5% ในแง่รายได้ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่เติบโต 3.2%
