นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า การปล่อยสินชื่อใหม่ของธนาคารปีนี้จะได้ตามเป้าหมาย 1.78 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งจะส่งผลทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างของธนาคารสิ้นปีนี้ได้ 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นบัญชีผู้กู้เงิน 1.5 ล้านราย
ทั้งนี้ ล่าสุด 16 ต.ค. 2560 ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 1.26 แสนล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้าง 9.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.67% สินทรัพย์รวม 1.05 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.43% เงินฝากรวม 8.62 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.50% กำไรสุทธิ 9,048 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) 14.42% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
สำหรับเป้าหมายกำไรปี 2560 คาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งกำลังที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ แต่เป็นการลดต้นทุนการระดมเงิน และต้นทุนดำเนินการจากเดิมอยู่ที่ 2.6% ลดลงเหลือ 2.2%
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธนาคารยังมีเป้าหมายหมายลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ในปี 2561 ให้ต่ำกว่า 4% เพื่อให้ได้ตามมาตรฐาน 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ที่มีเอ็นพีแอลไม่เกิน 3% นอกจากนี้ ตั้งเป้าบริหารยอดสินเชื่อคงค้างให้อยู่ที่ระดับ 1 ล้านล้านบาท โดยคลังตั้งเป้าให้ธนาคารปล่อยสินชื่อใหม่ให้ขยายตัวปีละ 7-8%
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในส่วนของ ร่างพ.ร.บ. ธอส. ตอนนี้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว รอให้ธนาคารและกระทรวงการคลังตรวจร่างกฎหมายและส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จและมีผลบังคับในไตรมาส 2 ปี 2561
ทั้งนี้ หลังจากกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ จะทำให้ธนาคาระดมทุนโดยการออกสลากได้ ซึ่งตั้งเป้าระดมทุนไว้ 5 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งการออกเป็น 2-3 ครั้ง ซึ่งรางวัลจะมีทั้งเงินสด สิทธิการกู้บ้านดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงการได้สินทรัพย์รอการขายของธนาคาร ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบรางวัลให้มีความน่าสนใจ
นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อ Reverse Mortgage สำหรับผู้สูงอายุ โดยให้นำบ้านที่อยู่อาศัยที่ไม่ติดการผ่อนชำระมาฝากขายกับธนาคาร เพื่อรับเงินเป็นรายเดือนจากธนาคารไปยังชีพ โดยธนาคารคาดว่าจะปล่อยกู้ให้ 70% ของราคาบ้าน เป็นระยะเวลา 15-20 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเตรียมความพร้อม เพราะเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็จะได้ดำเนินการได้ทันที
