นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบดำเนินโครงการตลาดประชารัฐ ไทยช่วยไทยภายใต้การร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริษัทประชารัฐรักสามัคคีจำกัด บูรณาการตลาดนัดทั้ง 8 ประเภทของแต่ละหน่วยงาน โดยบูรณาการการทำงาน ภายใต้งบดำเนินการ 562 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่ขายในตลาดเก่าที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อทั่วประเทศจำนวน 6,447 แห่ง
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะเปิดขายสินค้า สามารถติดต่อขอลงทะเบียนในวันที่ 1 พ.ย. 2560 และตลาดจะเปิดอย่างเป็นทางการ 1 ธ.ค. 2560 ภายใต้เป้าหมายเพิ่มผู้ค้าจำนวน 102,848 ราย เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการในแต่ละระดับ ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เดือดร้อยจากการไม่มีสถานที่ขายของ เพิ่มช่องทางการทำมาหากิน เพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อย ต้องการหารายได้เพิ่ม อาทิ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มขายสินค้าโอท็อป กลุ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์ ร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย เป็นต้น
สำหรับประเภทของตลาดแบ่งเป็น 1. ตลาดประชารัฐ กรีนมาร์เก็ต ดำเนินการโดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จำนวน 3 แห่ง ที่ตลิ่งชัน บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และตลาดลำพูน เป้าหมายผู้ค้ารายใหม่ 847 ราย 2. ตลาดประชารัฐ ไทยช่วยไทยคนไทยยิ้มได้ ดำเนินการโดยกรมพัฒนาชุมชน มีตลาดเข้าร่วมโครงการ 2,155 แห่ง เพิ่มผู้ค้ารายใหม่ 21,550 ราย
3. ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ ดำเนินการโดยกรมการปกครอง มีตลาดเข้าร่วม 3,822 แห่ง เพิ่มผู้ค้ารายใหม่ได้ประมาณ 45,864 ราย 4. ตลาดประชารัฐ กทม.คืนความสุข มีสถานขายของ 14 แห่ง เพิ่มจำนวนผู้ค้า 10,033 ราย 5. ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ดำเนินการโดย บริษัทประชารัฐรักสามัคคี จัดสถานที่ขายของที่มีอยู่เดิมตามสถานที่ราชการ ในแต่ละจังหวัด คาดเพิ่มจำนวนผู้ขาย 15,200 ราย 6. ตลาดประชารัฐ โมเดิร์น เทรด ดำเนินการโดยจังหวัด จังหวัดละ 1 แห่งคาดเพิ่มจำนวนผู้ค้า 3,800 ราย
7. ตลาดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ดำเนินการโดยธ.ก.ส. เปิดตลาดอยู่จำนวน 147 แห่ง เพิ่มจำนวนผู้ค้า 1,470 ราย และ 8. ตลาดประชารัฐต้องชมของกระทรวงพาณิชย์ มีตลาดในแหล่งท่องเที่ยวแห่งละ 1 แห่ง จำนวน 154 แห่ง คาดเพิ่มจำนวนผู้ค้า 3,080 ราย
ตลาดประชารัฐ ไทยช่วยไทย จะเปิดดำเนินการทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในส่วนภูมิภาค ที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อเป็นตลาดที่มีควมคึกคักอยู่แล้ว โดยไม่ได้เปิดตลาดใหม่ เพราะกังวลจะกลายเป็นตลาดร้างหากไม่ประสบความสำเร็จ
ซึ่งการเปิดตลาดประชารัฐ ไทยช่วยไทย จะทำให้เกิดการแข่งขันและการพัฒนาสินค้าเพิ่มขึ้น การเปิดตลาดประชารัฐ ภาครัฐจะดึงโมเดิร์นเทรดเข้ามาช่วยในการดำเนินการ เมื่อภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน จะสามารสร้างพื้นที่ให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกัน และสามารถลดต้นทุนด้านการตลาดอย่างเหมาะสม
