นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกของไทยในเดือนก.ย. 2560 เป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ที่ 12.2% หรือคิดเป็นมูลค่า 21,812 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน รวม 9 เดือนแรก การส่งออกมีมูลค่า 175,435 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.3% สูงสุดในรอบ 6 ปี
สาเหตุที่การส่งออกของไทยขยายตัวเพราะเศรษฐกิจโลกขยายตัว ทำให้การส่งออกขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะตลาด CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม จีน และญี่ปุ่น และสินค้ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวในระดับสูงที่ 7.9% สูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 สำหรับสินค้าที่มีการขยายตัวได้ดีจากทั้งปริมาณและราคา ได้แก่ ยางพารา น้ำตาลทราย และไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ขณะที่การส่งออกข้าว และอาหาร ขยายตัวได้ดีจากด้านปริมาณเป็นสำคัญ รวม 9 เดือนแรกกลุ่มนี้ขยายตัว 15.4%
สำหรับกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 12.5% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยสินค้าที่มีการขยายตัวในระดับสูง ได้แก่ ทองคำ ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำมันสำเร็จรูป คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอุปกรณ์สื่อสาร ส่งผลให้ตลาดสำคัญที่เคยหดตัวกลับมาขยายตัวได้ โดยเฉพาะ ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา และกลุ่ม CIS I รวม 9 เดือนแรก กลุ่มนี้ขยายตัว 8.4%
ส่วนการนำเข้าในเดือนก.ย. 2560 มีมูลค่ากว่า 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.7% ทำให้ดุลการค้าในเดือนก.ย. 2560 เกินดุล 3,358 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ภาพรวมการค้าของไทย 9 เดือนแรกของปี ยังคงเกินดุลอยู่ กว่า 12,200 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2560 คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการค้าโลก และอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น
นอกจากนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ ที่จะผลักดันให้การส่งออกไทยตลอดทั้งปีขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยหากในช่วงที่เหลือของปีสามารถส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้ปีนี้การส่งออกไทยขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 8% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเรื่องค่าเงินยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกซึ่งผู้ส่งออกยังควรจะต้องทำประกันอัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้วย
