นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจและเตรียมความพร้อมในการดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้าทั่วประเทศ รวมถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าแรงสูงต่างๆ ในช่วงการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และสถานที่จัดงานของทุกจังหวัด ซึ่งได้มีการประสานความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงระหว่างวันที่ 23-29 ต.ค. 2560

สำหรับพื้นที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดการพระราชพิธี กฟผ. ได้เตรียมโรงไฟฟ้าหลัก 4 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพระนครใต้ จ.สมุทรปราการ โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ จ.นนทบุรี โรงไฟฟ้าวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเตรียมระบบส่งและจุดจ่ายไฟฟ้าที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงบางกอกน้อย สถานีไฟฟ้าแรงสูงธนบุรีใต้ สถานีไฟฟ้าแรงสูงพระนครเหนือ และสถานีไฟฟ้าแรงสูงลาดพร้าว เพื่อดูแลความความเรียบร้อยในการจ่ายไฟฟ้า โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจบำรุงรักษาประจำการทุกจุดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึง กฟน. ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซล จำนวน 32 ชุด กรณีฉุกเฉิน กระจายรอบบริเวณจัดการพระราชพิธี

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 25,600 เมกะวัตต์ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ใช้จัดการพระราชพิธีจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 9,000 เมกะวัตต์ ซึ่งได้วางแผนและเตรียมการบริหารจัดการในด้านต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว

“กฟผ. จะดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ตลอดช่วงการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ เพื่อสนับสนุนการจัดการพระราชพิธีและอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ร่วมถวายความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพร้อมกันทั่วประเทศ” ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน