นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและติดความก้าวหน้าโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม ว่า ขณะนี้โครงการลงทุนมีความคืบหน้าดีมาก โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่เริ่มส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้อันดับความสะดวกในการทำธุรกิจของไทยปรับตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลมีเวลาในการทำงานอีก 1 ปี จึงสั่งการให้ สนข. จัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุนทั้งหมด โดยให้นำโครงการที่ลงทุนที่เกี่ยวข้องอีอีซีขึ้นมาทำเป็นลำดับแรก คือ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ศูนย์ซ่อมอากาศยานของบมจ.การบินไทย และโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 โดยจะต้องมีการประมูลทั้งหมดก่อนสิ้นปี 2561 สำหรับโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบินคาดว่าจะประกาศทีโออาร์ได้ก่อนปลายปีนี้ ส่วนศูนย์ซ่อมและท่าเรือ จะประกาศทีโออาร์ได้ก่อนสิ้นไตรมาสแรกปี 2561 เพื่อให้ได้ตัวผู้รับเหมาและเริ่มก่อสร้างต่อไป

สำหรับโครงการลงทุนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถือว่าคืบหน้าดีมาก โดยเฉพาะทางคู่เฟส 1 จำนวน 7 เส้นทาง เปิดประมูลครบแล้ว และจะเริ่มดำเนินการเปิดประมูลเฟสที่ 2 อีก 9 เส้นทาง ซึ่งเป็นไปตามแผน ส่วนโครงการรถไฟไทยจีนนั้น มั่นใจว่าภายใน พ.ย.หรือต้น ธ.ค. นี้ จะเริ่มก่อสร้างได้ รวมทั้งกระทรวงคมนาคมยังอยู่ระหว่างศึกษาเส้นทางต่อขยายจากนครราชสีมาไปยังหนองคายอีกด้วย

ส่วนงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นั้น กำชับให้เร่งโครงการรถไฟฟ้าในภูมิภาค 4 จังหวัด คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น และนครราชสีมา เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่แออัดในเมืองใหญ่ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดอีกด้วย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้นำเสนอแอคชั่นแพลนปี 2561 ในที่ประชุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการขับเคลื่อนต่อเนื่องจากปี 2559 , 2560 และโครงการใหม่ปี 2561 รวมทั้งสิ้น 51 โครงการ วงเงินลงทุน 2.39 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นงบต่อเนื่องจากปี 2559 วงเงิน 1.27 ล้านล้านบาท, ปี 2560 วงเงิน 1.02 ล้านล้านบาท และงบประมาณใหม่ในปี 2561 วงเงิน 1.03 แสนล้านบาท โดยในปี 2561 มีโครงการลงทุนใหม่รวม 8 โครงการ วงเงินรวม ทั้งสิ้น 8 โครงการ วงเงิน 1.03 แสนล้านบาท ประกอบด้วย โครงการต่อขยายทางยกระดับโทลล์เวย์ จากรังสิต-บางปะอิน, มอเตอร์เวย์ ธนบุรีปากท่อ-มหาชัย, โครงการขยายสนามบินกระบี่และขอนแก่น, ท่าเรือบก จ.ขอนแก่น, รถไฟฟ้าภูเก็ต, รถไฟฟ้านครราชสีมา, รถไฟฟ้าเชียงใหม่ และรถไฟฟ้าขอนแก่น

ทั้งนี้ นายสมคิด กำชับให้กระทรวงคนนาคมเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าภูมิภาค 4 เส้นทาง เพื่อให้สามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ภายในปี 2561 เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาความแออัดในภูมิมิภาค รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดดังกล่าว รวมทั้งเสนอให้กระทรวงศึกษาก่อสร้างรถไฟฟ้าในจังหวัดอุดรธานีเป็นการเพิ่มเติม ขณะที่กระทรวงเตรียมเสนอก่อสร้างเพิ่มเติมที่พิษณุโลก เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่

นายอาคม กล่าวต่อถึง การเร่งพัฒนาโครงข่ายสนามบิน กรณีที่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย เสนอขอเข้าบริหารสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน(ทย.)จำนวน 15 สนามบิน จากทั้งหมด 29 สนามบินว่า ขณะนี้สนามบินทั้ง 29 แห่งของ ทย.สามารถบริหารได้ดีเริ่มมีกำไร ดังนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการให้ ทอท. เข้ามาบริหาร เบื้องต้นนายสมคิด เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคมหาข้อสรุปให้ได้ภายในเดือยพ.ย. นี้

“รองนายกฯสมคิด ให้หลักการไว้ว่าต้องการให้ทอท. ทำหน้าที่ในการพัฒนาสนามบินในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ทอท. มีฮับทางด้านเหนือและใต้ และแต่ยังไม่มีฮับด้านตะวันตก และตะวันออก เราอาจจะจำเป็นต้องยกให้ทอท. เข้ามาบริหารสนามบินทย. ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกและตะวันออก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน