นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวว่าพบร้านธงฟ้าประชารัฐที่รับบัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อย มีการจัดรวมชุดสินค้าวางขายในร้านราคาชุดละ 200-300 บาท ซึ่งสินค้าบางอย่างที่อยู่ในนั้น ผู้ซื้อไม่ได้ต้องการ ว่า ในส่วนกรมยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนนี้เข้ามาผ่านสายด่วนกรมการภายใน 1569 หรือผ่านช่องทางอื่นๆ ของกรม ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานและขอข้อมูลจากทางกระทรวงการคลัง ซึ่งทราบจากข่าวว่ากระทรวงการคลังได้รับแจ้งเรื่องนี้ เพื่อที่กรมขอทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าเป็นร้านไหน อย่างไร มีที่ตั้งร้านตรงไหน จะได้เร่งส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไปตรวจสอบข้อมูล จากปัจจุบันมีร้านค้าร่วมโครงการประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า หากมีการแจ้งข้อมูลร้านดังกล่าวกลับมา สายตรวจกรมการค้าภายในจะสอบถามร้านค้าว่ามีการทำกรณีดังกล่าวจริงหรือไม่ ที่มีการจัดรวมชุดสินค้า แต่มีบางสินค้าที่ผู้ซื้อไม่ต้องการ ก็อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ในเรื่องการบังคับซื้อ ซึ่งเป็นกฎหมายของหน่วยที่เกี่ยวข้องอื่นดูแลอยู่ ไม่ได้อยู่ที่กรมการค้าภายใน

“วัตถุประสงค์ของโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ได้วางเป็นกรอบกว้างๆ ถึงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติให้กับร้านค้าที่ร่วมโครงการซึ่งกรมการค้าภายในได้กำหนดไว้ หากตรวจสอบพบว่าร้านค้ากระทำการใดผิดวัตถุประสงค์ของโครงการจริง เพราะวัตถุประสงค์ไม่ได้ต้องการให้รวบรวมขายสินค้าเป็นแพ็ก วัตถุประสงค์คือต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ หากเอาสินค้ามาแพ็ก ซึ่งบางอย่างในนั้นอาจจะไม่มีความจำเป็นต่อคนๆ หนึ่ง ก็จะเพิกถอนสิทธิ์ของร้านค้าออกจากโครงการ”นายบุณยฤทธิ์กล่าว และว่า ที่ผ่านมามีรายงานเข้ามาว่ามีการยึดเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ระงับการใช้เครื่องของร้านค้าบางแห่งบ้างแล้ว ที่ทำผิดวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างชัดแจ้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน