นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า หลังดำเนินการไปได้ 1 เดือนมีประชาชนใช้บริการไปแล้วกว่า 10 ล้านคน คาดว่าเมื่อเข้าเดือนที่ 2 จะมีประชาชนเข้าสู่โครงการมากขึ้นและครอบคลุม โดยมียอดค่าใช้จ่ายในเดือนแรกถึง 31 ต.ค. จำนวน 2,700 ล้านบาท หากถึงสิ้นเดือนพ.ย. ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท พร้อมคาดว่าจนถึงสิ้นปี 2560 จะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการกว่า 9,000 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าจะขยายให้มีร้านค้า 18,000 แห่ง ภายในเดือนพ.ย. นี้
ส่วนที่มีการร้องเรียนถึงร้านค้าที่กระทำความผิดเงื่อนไขของร้านค้าในโครงการ จึงสั่งการให้ตรวจสอบและพบว่ามีความผิด 7 ราย และยกเลิกการเข้าร่วมโครงการรวมทั้งยึดเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (อีดีซี) เพราะมีพฤติกรรมที่ผิดเงื่อนไขชัดเจนคือ มีการขายสินค้าแบบจัดชุดบังคับซื้อ ส่วนอีก 1 รายไม่ปิดป้ายแสดงราคาก็ได้ปรับตามความผิดของพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และหากประชาชนพบว่ามีร้านค้าที่มีพฤติกรรมผิดเงื่อนไขให้ร้องเรียนได้โดยตรงที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นๆ หรือสายด่วน 1569 โดยยืนยันว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบทันที
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าเตรียมนำสินค้าชุมชนเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจากการหารือร่วมกับธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งก็พร้อมจะให้ความร่วมมือในการปล่อยสินเชื่อ และคัดเลือกผลิตภัณฑ์เข้าสู่ร้านค้าต่อไป
