น.ส.ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคดีขึ้น ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และเห็นได้ชัดตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ที่เริ่มมาตรการช็อปช่วยชาติ ทำให้เห็นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาแล้ว โดยคาดว่ามาตรการช็อปช่วยชาติจะมีเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบาท ส่วนบริษัทเองคาดว่าจะมียอดขายเติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา และมียอดขายรวม 2,000 ล้านบาทจากมาตรการดังกล่าว โดย 2 วันแรกที่มีมาตรการช็อปช่วยชาติมีผู้บริโภคมาขอใบกำกับภาษีมากขึ้นถึง 20%

พร้อมกันนี้ล่าสุดได้ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จัดแคมเปญกระเช้าของขวัญปีใหม่ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคให้ได้ต่อเนื่อง โดยมีกระเช้าให้เลือก 140 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 295-19,200 บาท และสามารถเลือกสินค้าจัดลงกระเช้าเองได้ตามต้องการ ขณะเดียวกันได้นำสินค้าชุมชนมาจัดกระเช้าปีใหม่กว่า 10,000 ใบ และมีสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ร่วมจัดกระเช้าเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นส่วนลด เลือกรับส่วนลดเงินสด หรือบัตรของขวัญรวมสูงสุด 35% หรือบัตรเครดิตคืนเพิ่มสูงสุด 18% และมีให้เลือกผ่อนชำระ 0% สูงสุด 3 เดือนผ่านบัตรเครดิต คาดว่ายอดขายกระเช้าของขวัญปีใหม่ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้วมียอดขาย 650 ล้านบาท

“ตลาดรวมกระเช้าของขวัญปีใหม่ในปีนี้จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง หรือมีมูลค่า 2,400 ล้านบาทเท่ากับปี 2558 จากปี 2559 ตลาดตกลงไปถึง 18% หรือมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยท็อปส์ได้เริ่มแคมเปญมาตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ยอดขายเติบโตถึง 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จึงทำให้เห็นว่าอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคได้กลับมาแล้ว ซึ่งกระเช้าที่คาดว่าจะได้รับความสนใจและขายดีในปีนี้ยังคงเป็นราคา1,500 บาทขึ้นไป เหมือนกับปีที่แล้วที่มีสัดส่วนถึง 70%”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน