นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในไตรมาส 3 ของปี 2560 ขยายตัวได้ 4.3% เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.8% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส ขณะที่การส่งออกสินค้ามีมูลค่า 61,633 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวสูงสุดในรอบ 19 ไตรมาส หรือขยายตัว 12.5% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 7.9% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 51,490 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13% เป็นผลมาจากการขยายตัวของการส่งออก การปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนเอกชน และการขยายตัวต่อเนื่องของการใช้จ่ายภายในประเทศ

ทั้งนี้ ส่งผลให้ สศช. มีการปรับประมาณการจีดีพี ในปี 2560 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 3.5-4.0% ค่ากลาง 3.7% ปรับเพิ่มเป็นทั้งปี 3.9% โดยไตรมาส 4 ปีนี้ยังคงได้รับแรงส่งต่อเนื่องทำให้ขยายตัวได้สูงอยู่ ขณะเดียวกัน สศช. ยังคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัวได้ 3.6-4.6% หรือมีค่ากลางที่ 4.1% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวได้ดีมากกว่าปีนี้

ส่วนภาคการส่งออกสินค้าในปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.6% จากเดิมคาดขยายตัวได้ 5.7% และในปี 2561 การส่งออกจะขยายตัว 5% ขณะที่การนำเข้าปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ 13% จากเดิมคาดขยายตัว 10.7% และคาดว่าจะขยายได้ 7% ในปี 2561

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2561 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.9-1.9% เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.7% ขณะที่การลงทุนเอกชน คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 2.2% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.7% ในปีหน้า ด้านการลงทุนภาครัฐคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 1.8% ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาด 8% และปีหน้าคาดว่าการลงทุนภาครัฐจะขยายตัวได้ 11.8% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.7% เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.2%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ควรให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการขยายตัวการผลิตนอกภาคเกษตร โดยดูแลการส่งออกให้ขยายตัวได้เต็มศักยภาพและต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนทั้งในด้านการดำเนินการตามโครงการลงทุน การชักจูงนักลงทุนในสาขาเป้าหมาย รวมถึงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนในความต่อเนื่องของนโยบายและมาตรการที่สำคัญในช่วงหลังการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การเลือกตั้ง การสนับสนุนการท่องเที่ยว

“เศรษฐกิจปีหน้ามีความเสี่ยงเรื่องฐานสูง ตัวเลขอาจจะไม่สูงกว่าปีนี้ โดยเฉพาะภาคเกษตรและอาจมีความเสี่ยงด้านนโยบายที่ยังไม่แน่นอนอาจส่งผลกระทบกับการค้าโลก รวมถึงนโยบายของสหรัฐ และความขัดแย้งในโลก โดยในปีนี้มาตรการภาครัฐประคับประคองมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นตัวสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้น ส่วนการลงทุนภาครัฐที่ชะลอตัวในปีนี้เกิดจากปีก่อนที่มีมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายมากเป็นพิเศษ ทำให้เกิดฐานสูงและการเบิกจ่ายทำได้ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย”

นายปรเมธี กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 4% หรือไม่นั้น มองว่ามีส่วนช่วย แต่ไม่ได้มากนักที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่เหมือนช่วง 2 ปีก่อนที่มีมาตรการออกมาเพื่อต้องการกระตุ้น แต่ปัจจุบันเป็นให้กระตุ้นด้านบริโภค มีผลบวก แต่ไม่ได้เป็นตัวหลักในการช่วยเศรษฐกิจขยายตัว

ส่วนนโยบายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าจะต้องทำให้คนจนหมดประเทศนั้น มองว่า เป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และเป็นเป้าหมายที่มีไว้พุ่งชน ดังนั้นจะต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ผู้มีรายได้น้อยมีอาชีพ เพิ่มรายได้ ให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนให้มีรายได้และหลุดพ้นความยากจน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน