นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนโครงการใหม่ 7,000 ล้านบาท และลงทุนโครงการเดิม 8,000 ล้านบาท ซึ่งไตรมาส 1/2564 บริษัทมีการใช้เงินลงทุนแล้ว 3,257 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนซื้อหุ้น 15.53% ของบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และโครงการพลังงานลมเน็กส์ซีฟ เบนเตร ในเวียดนาม เป็นต้น

โดยปีนี้บริษัทยังให้น้ำหนักการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเป็นสำคัญ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลงทุนในโครงการประเภทเชื้อเพลิงหลักในต่างประเทศ กำลังผลิตรวมไม่น้อยกว่า 500 เมกะวัตต์ และโครงการประเภทพลังงานทดแทนในต่างประเทศ อีกไม่น้อยกว่า 200 เมกะวัตต์ ส่วนการลงทุนในประเทศ บริษัทได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมกำลังการผลิต 18 เมกะวัตต์ รวมทั้งแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต เพื่อเสริมสร้างฐานธุรกิจของบริษัทให้มั่นคงยิ่งขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิ 2,087.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 53.4% เนื่องจากการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นของบริษัทย่อยในออสเตรเลีย ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ โครงการยานดินและโครงการคอลเล็กเตอร์ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่าย อีกทั้งส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าThang Long เวียดนาม และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป. ลาว เพิ่มขึ้น

ทำให้มีรายได้รวม 8,701.32 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้า 8,569.09 ล้านบาท เป็นสัดส่วนรายได้ของกลุ่มโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก 85% และกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 15% และรายได้จากระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และอื่นๆ 132.23 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ไม่น้อยกว่า 700 เมกะวัตต์ตามเป้าหมาย รวมทั้งจะขยายการลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพด้วย

โดยกำลังการผลิตเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 7,215 เมกะวัตต์ ซึ่งปีนี้มีโรงไฟฟ้า 4 แห่ง กำลังการผลิตรวม 537.04 เมกะวัตต์ เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่าย ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน ในออสเตรเลียกำลังการผลิต 214.2 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเล็กเตอร์ ในออสเตรเลีย กำลังการผลิต 226.8 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ในอินโดนีเซีย กำลังการผลิต 296.23 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม Ecowin ในเวียดนาม กำลังการผลิต 29.7 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของบริษัทในปีนี้มุ่งเน้นการบริหารจัดการใน 3 ประเด็นหลักควบคู่กัน ทั้งการบริหารความสามารถในการทำกำไรของสินทรัพย์ที่ได้ลงทุนแล้ว เดินหน้าโครงการเป้าหมายที่มีอยู่ในมือเพื่อร่วมทุนให้สำเร็จ และการบริหารวางแผนทางการเงินให้รัดกุมเพื่อควบคุมต้นทุนและรักษาฐานะทางการเงินให้มั่นคงสามารถรองรับแผนการขยายการลงทุนของบริษัทได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน