นายวิศาล ชวลิตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างคลังสำรองน้ำมันในประเทศฟิลิปปินส์และเมียนมา เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการปริมาณสำรองเพื่อป้อนตลาด เนื่องจากปัจจุบัน ปตท.มีคลังน้ำมันของบริษัทเกือบทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ยกเว้น 2 ประเทศดังกล่าว ดังนั้นเพื่อบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจึงจะศึกษาแนวทางการสร้างคลังและสรุปแผนดำเนินงานให้ได้ภายในปี 2561 และหากแผนการดำเนินงานผ่านการอนุมัติของที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี

“เรามีการศึกษาการสร้างคลังเพื่อรองรับความไม่แน่นอน และป้องกันความเสี่ยงด้านซัพพลาย เนื่องจากในฟิลิปปินส์เราเช่าคลังอยู่ทางตอนเหนือของมะนิลา 2 แห่ง ปริมาณสำรองรวม 110 ล้านตัน ขณะที่ประเทศเขาก็มีภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง ดังนั้นเราเลยจะไปศึกษาทางตอนใต้ของมะนิลา เพราะหากเกิดภัยธรรมชาติแล้วมีปัญหาเรื่องการขนส่ง การขายน้ำมันในที่หนึ่ง ก็จะได้ใช้อีกคลังหนึ่งให้ช่วยบริหารจัดการ ส่วนที่เมียนมา ปัจจุบันมีเพียงการขนส่งข้ามแดนเป็นหลัก แต่เพื่อให้เกิดความมั่นคงก็อยากเข้าไปสร้างคลังเช่นกัน โดยพื้นที่ที่ศึกษาคือบริเวณติลาวา เนื่องจากอยู่ใกล้แม่น้ำ มีความสะดวกในการขนส่ง ส่วนเงินลงทุนที่จะใช้นั้นอยู่ที่ข้อสรุปผลศึกษาด้านความเหมาะสมของขนาดคลัง” นายวิศาล กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนระยเวลา 5 ปี (2560-2565) โดยตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) เป็น 535 แห่ง จากปัจจุบันมีแล้ว 190 แห่ง พร้อมทั้งขยายสาขาร้านกาแฟอเมซอน ทั้งที่อยู่ในปั๊ม และนอกปั๊มเป็น 400 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 120 แห่ง และขยายสาขาร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่เป็น 120 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 30 แห่ง

นายวิศาล กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจลงทุนในทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในด้านกฎหมายของแต่ละประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงเข้ามาลงทุนในธุรกิจน้ำมันได้เพียง ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ พม่า โดยในส่วนประเทศอื่นๆ ต้องใช้ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) เข้าไปเปิดตลาดก่อนจึงจะสามารถเข้าไปขยายตลาดน้ำมันได้ โดยในปี 2561 บริษัทจะขยายสาขาอเมซอนไปในสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม

“ในการขยายไปในตลาดอาเซียน มี 2 แนวทาง คือ 1. ขยายไปในประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย อาทิ ลาว กัมพูชา 2. ขยายในกลุ่มประเทศที่ยังไม่รู้จักสินค้าของไทยแต่มีตลาดขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นโอกาสในการขยายตลาดของบริษัท อาทิ ฟิลิปินส์ ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญในการลงทุนกับประเทศดังกล่าว โดยที่ผ่านมารายได้จากปั๊มน้ำมัน อเมซอน และจิฟฟี่ในตลาดอาเซียนเฉลี่ยอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งคาดว่ารายได้ในตลาดอาซียนในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนจากแผนการลงทุนที่วางไว้” นายวิศาลกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนปลูกเมล็ดพันธุ์ ปตท.ในอาเซียน ครั้งที่ 3 โดยร่วมกับบริษัทในกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจในอาเซียน เพื่อสร้างทรัพยากรบุคคลโดยเฉพาะเยาวชนในอาเซียนให้มีศักยภาพ ขยายเครือข่ายความรู้ที่ได้รับไปยังส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นกำลังของประเทศ โดยกิจกรรมที่จัดขึ้น เช่น การพัฒนาบุคลิกภาพ การฝึกฝนการเป็นผู้นำ การพัฒนาทักษะการคิดเชิงบวก เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน