นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ผู้บริหารเว็บไซต์ DDproperty.com ซึ่งเป็นสื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทจัดทำดัชนีอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ เป็นครั้งแรก เพื่อนำเสนอข้อมูลและบทวิเคราะห์ที่ผู้บริโภคสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย

โดยเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า จากฐานข้อมูลของเว็บไซต์ DDproperty.com ซึ่งปัจจุบันมีผู้บริโภคที่นำข้อมูลมาโพสต์ซื้อขายบนเว็บฯ ราว 2 แสนรายการ โดยที่เกือบทั้งหมดเป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ทั้งมือหนึ่งและมือสองในสัดส่วนเท่ากัน ส่วนช่วงราคาที่มีการประกาศขายมากที่สุดคือ 3.5-8.5 ล้านบาท และในจำนวนดังกล่าวมีอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่าอยู่ประมาณ 30%

ทั้งนี้ ในเฟสแรกของการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านราคาและปริมาณอสังหาริมทรัพย์ในรอบไตรมาส พบว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2560 อยู่ที่ระดับ 199 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาส 2 ของปีเดียวกัน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว พบว่าราคาที่อยู่อาศัยได้ปรับเพิ่มขึ้น 13% และหากมองย้อนกลับไปในช่วงระยะเวลา 2 ปีพบว่า ดัชนีราคามีการเติบโตถึง 53% โดยที่ดัชนีราคาคอนโดมิเนียมมีอัตราการเติบโตมากที่สุด เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว

ขณะเดียวกันยังพบว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขตจตุจักร มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ามากที่สุดที่ประมาณ 10% ตามมาด้วยเขตพระโขนงที่ปรับเพิ่มขึ้น 7% ส่วนคอนโดมิเนียม 5 เขตแรกที่มีการเสนอราคาขายสูงสุด คือ ปทุมวัน ที่ราคา 1.8 แสนบาท/ตร.ม. ราชเทวี 1.7 แสนบาท/ตร.ม. คลองเตย 1.6 แสนบาท/ตร.ม. และพระโขนง 1.5 แสนบาท/ตร.ม.

โดยที่ปริมาณบ้าน และคอนโดมิเนียม ในกรุงเทพฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากชะลอตัวลงในช่วงต้นปี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาส 2 และเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาในอัตรา 14% และหากมองย้อนไปในรอบ 1 ปี จะพบว่าดัชนีที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ทำสถิติการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มทำการเก็บข้อมูลในปี 2558 โดยเพิ่มขึ้นถึง 20% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ เนื่องจากการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ จากผู้ประกอบการนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2560

ขณะเดียวกันจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมยังเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ว่าจะแผนยุทธศาสตร์การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนส่งของประเทศ พ.ศ. 2558-2565 แนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปถึงสิ้นปีนี้ที่ 1.5% ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมไปถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยโดยภาพรวมคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งที่ผ่านการอนุมัติและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ยิ่งไปกว่านั้น ความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมของนักลงทุนชาวต่างชาติ ยังมีส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตยังคงเติบโต ดังนั้นในแง่ของผู้บริโภคถือเป็นโอกาสที่ดีในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงเวลานี้ แม้ว่าราคาที่อยู่อาศัยจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับแคมเปญส่งเสริมการขายที่ผู้ประกอบการแข่งขันกันออกมาเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้ออย่างเข้มข้น น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน