นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ว่า ตั้งแต่เปิดโครงการเดือนพ.ค.-ต.ค. 2560 มีการอนุมัติเงินกู้ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) ไปแล้วกว่า 1,118 ราย วงเงินกว่า 4,423 ล้านบาท จากเอสเอ็มอีที่ยื่นคำขอสินเชื่อมากกว่า 4,000 ราย วงเงินกว่า 21,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในการพิจารณาหลักเกณฑ์ของโครงการมีเอสเอ็มอีจำนวนหนึ่งที่คุณสมบัติไม่ครบตามที่กำหนด ทำให้ขณะนี้กองทุนยังมีวงเงินเหลือให้กับเอสเอ็มอีที่ประสงค์จะยื่นคำขอสินเชื่อ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จึงมีมติให้ขยายการเปิดรับการยื่นขอสินเชื่อออกไปจนถึงเดือนธ.ค. 2560

สำหรับในปี 2561 กสอ.เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่องตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและยุทธศาสตร์จังหวัด ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 11 แห่ง เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม ในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีในแต่ละจังหวัดแล้ว

นอกจากนี้ จะการออกคูปองสำหรับใช้บริการด้านต่างๆ อาทิ บริการปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การใช้บริการ ศูนย์วิเคราะห์ วิจัย และทดสอบผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาบุคลากร เป็นต้น มีเป้าหมายให้เอสเอ็มอีใช้บริการจำนวน 5,000 ราย ในวงเงินทั้งสิ้น 320 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 20,000 ล้านบาท

นายกอบชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กสอ.เตรียมแผนการ ใช้โมเดลศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (ไอทีซี:ITC) จากส่วนกลางที่ได้เริ่มดำเนินการแล้ว เพื่อเป็นต้นแบบในการยกระดับ งานบริการไปยังศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 11 แห่ง นำไปใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนเอสเอ็มอีให้เข้มแข็งในระดับภูมิภาคต่อไป

ขณะเดียวกัน ได้เชิญชวนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละด้านมาให้คำปรึกษาแนะนำเอสเอ็มอีเสมือนเป็นพี่เลี้ยงกว่า 20 บริษัท อาทิ SCG ปตท. เด็นโซ่ เดลต้า โตโยต้า ฮอนดา นิสสัน เป็นต้น

นอกจากนี้ กสอ. และ สสว. ยังเตรียมสร้างกลไกเชื่อมโยงเพื่อส่งเสริมเอสเอ็มอี 5,000 ราย เข้าไปเชื่อมโยงเป็นซัพพลายเชนกับผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยล่าสุดกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น หรือเมติ มอบหมายให้องค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรม ภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือเอสเอ็มอาร์เจ ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาประจำที่ไทยเพื่อช่วยจัดทำแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงเอสเอ็มอีของไทยกับไทย และในอนาคตจะเชื่อมไทยไปยังผู้ประกอบการของญี่ปุ่น รวมถึงเชื่อมไทยไปยังกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน