น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดการกระจายผลไม้ภาคใต้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วยลดปัญหาการกระจุกตัวและราคาตกต่ำ ว่า ในช่วงระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย. ผลไม้ในภาคใต้และภาคเหนือ มีปริมาณผลผลิตออกมาจำนวน และปีนี้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การกระจายผลผลิตได้รับผลกระทบ ทั้งด้านการส่งออกไปต่างประเทศและการจำหน่ายภายในประเทศ

จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่สมาชิกสหกรณ์ 2 มาตรการ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนสินค้ากันระหว่างเครือข่ายสหกรณ์ เน้นข้าวสารแลกกับผลไม้ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบเรื่องช่องทางการตลาดในขณะนี้ และอีกมาตรการคือการซื้อขายโดยตรงระหว่างสหกรณ์ชาวสวนผลไม้กับสหกรณ์ผู้บริโภคในจังหวัดต่างๆ เป็นการกระจายผ่านเครือข่ายของศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ ซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ และสหกรณ์ขนาดใหญ่ระดับอำเภอ

ปัจจุบันการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างข้าวกับผลไม้ ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 11 สหกรณ์ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณผลผลิต 854 ตัน มูลค่ากว่า 21.624 ล้านบาท ส่วนการซื้อขายโดยผ่านขบวนการสหกรณ์ ดำเนินการแล้ว 35 แห่ง ปริมาณ 204 ตัน มูลค่ากว่า 7,049,954 บาท และในครั้งนี้ เป็นการกระจายผลผลิตเงาะ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ผลิตผลไม้ของภาคใต้ ใช้เครือข่ายสหกรณ์เป็นกลไกในการกระจายผลผลิต จากเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ ส่งถึงมือผู้บริโภคโดยตรง มีชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายผลไม้สหกรณ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มต้นจำนวน 3 ตัน มูลค่ากว่า 100,000 บาท ซึ่งเงาะที่นำมาจำหน่ายครั้งนี้ ส่งตรงมาจากสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี ถึงบ้านผู้บริโภคภายในวันเดียว และยังมีรถแท็กซี่สหกรณ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด มาร่วมเป็นรถขนส่งผลไม้จากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ไปยังผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯด้วยเช่นกัน และยังมีแผนที่จะกระจายผลผลิตมังคุด และลำไยต่อไป

รมช.เกษตรฯ ได้มอบนโยบายการกระจายผลไม้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ ผ่านระบบ Zoom Meeting และได้ถ่ายทอดสัญญาณไปยังสหกรณ์ผลไม้และสหกรณ์ ผู้จำหน่ายข้าวสารในจังหวัดต่างๆ ว่า สหกรณ์ต้องเรียนรู้ด้านการตลาดทั้งออนไลน์และก็ออฟไลน์ เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคได้ ทุกช่องทาง ระบบโลจิสติกส์ก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ผลไม้สดใหม่ต้องคู่กับการจัดส่งที่รวดเร็วให้ถึงมือผู้บริโภค ให้เหมือนว่ามารับประทานในสวนผลไม้ หากขบวนการสหกรณ์ทำได้เช่นนี้ ก็มั่นใจว่าผลผลิตของสหกรณ์ก็จะสามารถจำหน่ายได้ในจำนวนมาก และถ้าหากว่าสมาชิกสหกรณ์หรือเกษตรกรติดขัดหรือมีอุปสรรคด้านใดก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ เชื่อมั่นว่าขบวนการสหกรณ์ จะเป็นขบวนการสำคัญที่จะร่วมมือกันการพัฒนาด้านคุณภาพ ทั้งการผลิต และการตลาดได้ในอนาคต และมั่นใจว่าพลังของเครือข่ายในขบวนการสหกรณ์ จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ในการนำปัญหามาร่วมแก้ไข และพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ส่งผลถึงการอยู่ดีกินดีของสมาชิกเกษตรกรไทยต่อไป”

ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดประสานเครือข่ายสหกรณ์ในแต่ละพื้นที่ สั่งซื้อเงาะและมังคุด จากสหกรณ์ที่เป็นแหล่งผลิตในภาคใต้ กระจายสู่ผู้บริโภคของแต่ละจังหวัด โดยให้สหกรณ์ต้นทาง 7 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา พัทลุง และยะลา เปิดจุดรวบรวมเงาะ มังคุด จากเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ เน้นผลไม้ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน GAP ก่อนนำมาคัดเกรดบรรจุลงกล่อง และเร่งจัดส่งให้สหกรณ์ที่เป็นตลาดปลายทางเพื่อให้ถึงผู้บริโภคโดยเร็ว

พร้อมจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 122 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์กู้ยืมเป็นทุนหมุนเวียนรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรในราคานำตลาด เพื่อดึงราคาผลไม้ในพื้นที่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่พี่น้องเกษตรกร ผู้ที่สนใจจะอุดหนุนผลไม้สหกรณ์ภาคใต้ เพื่อนำไปบริโภค หรือนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลสนาม สามารถสั่งซื้อผ่านเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดของท่าน สำหรับส่วนกลางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถสั่งซื้อกับทางชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด โทร. 08-1823-3639

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน