นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เรื่องการกำหนดกรอบเงินเฟ้อ เนื่องจากตามกำหนด ครม. ต้องอนุมัติก่อนสิ้นปีเพื่อเริ่มใช้กรอบเงินเฟ้อใหม่ในวันที่ 1 ม.ค. 2561 ซึ่งกรอบเงินเฟ้อได้มีการรายงานให้ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2560 ทราบถึงผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่ง กนง. ประเมินว่าครึ่งปีแรกนโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศและเอื้อให้แรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น จึงยังมีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นแต่สอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาค

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กนง. ให้ความสำคัญในช่วงที่ผ่านกมาคือการพัฒนาการสื่อสารด้านนโยบายการเงินต่อสาธารณชน เพื่อสร้างความโปร่งใสและเพิ่มประสิทธิภาพของนโยบาย ติดตามพัฒนาการและประเมินความเสี่ยงด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินและผลักดันให้เกิดการปฏิรูปกรอบการกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เช่น ปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ของภาคเอกชนและศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจ และติดตามการพัฒนาเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจควบคู่กับการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) เพื่อประโยชน์ต่อการพิจารณาดำเนินนโยบายระยะต่อไป

“คลังเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 และ 2 ปีที่ผ่านมาต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินที่ ครม. อนุมัติซึ่งกำหนดกรอบเงินเฟ้อทั่วไปที่ 2.5% บวกลบ โดยปี 2558 อยู่ที่ -0.9% และปี 2559 อยู่ที่ 0.19% ครึ่งแรกปี 2560 อยู่ที่ 0.67% ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อการบริโภคและการลงทุน จึงเห็นควรให้ กนง. พิจารณาแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ภายในกรอบเป้าหมายในโยบายการเงิน และรายงานผลการพิจารณาแนวทางดังกล่าวให้ ครม. ทราบโดยเร็ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน