นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มและผลปาล์มในขณะนี้ ว่า ราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลดลงนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2560 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลจากปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบช่วงที่ผ่านมามีมาก ประกอบกับโรงกลั่นฯ มีสต๊อกน้ำมันปาล์มคงเหลือมากกว่าความต้องการใช้ในแต่ละเดือน รวมทั้งภาวะการค้าน้ำมันปาล์มขวดชะลอตัว ทำให้ปริมาณการสั่งน้ำมันปาล์มจากโรงงานสกัดลดลงและซื้อราคาลดต่ำลง ส่งผลถึงผลปาล์มน้ำมันด้วย โดยสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือ จากการแจ้งตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ( กกร.) นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2560 เป็นต้นมา สต๊อกน้ำมันปาล์มคงเหลือมีจำนวนมากกว่า 400,000 ตัน CPO มาถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากปริมาณผลปาล์มที่ออกสู่ตลาดมีมากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมี.ค. 2560 ปริมาณผลปาล์ม อยู่ที่ 1.11 ล้านตัน จนถึงปัจจุบัน พ.ย. 2560 อยู่ที่ 1.44 ล้านตัน ประกอบกับมีการส่งเสริมให้เกษตรกรทำปาล์มคุณภาพโดยการตัดปาล์มสุก เปอร์เซ็นต์น้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 15-16% เป็น 17-18% ทำให้มีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มคงเหลือที่มีปริมาณมากในขณะนี้ โดยคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ได้ประชุมเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2560 และมีมติให้เร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อรักษาสมดุลปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศโดยแต่งตั้งคณะทำงานสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์ม มีหน้าที่กำหนดมาตรการเร่งหาตลาดในการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือกรมธุรกิจพลังงาน ประสานผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ให้สำรองไบโอดีเซล (B100) เพิ่มขึ้นซึ่งสำรองตามกฎหมาย (ร้อยละ 1) อยู่ที่ 14.339 ล้านลิตร เป็น 120 ล้านลิตร

และในสัปดาห์นี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด เพื่อเร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ และจะเชิญผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อพิจารณาอุปสงค์และอุปทานผลผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์ม และปริมาณความเหมาะสมของการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งจะส่งผลทำให้ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือในตลาดลดน้อยลง การซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบและผลปาล์มน้ำมันจะคล่องตัวขึ้น

สำหรับกระแสข่าวที่กล่าวว่ามีการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองจากประเทศบราซิลและประเทศสหรัฐ โดยไม่ต้องเสียภาษี เพื่อนำมาสกัดน้ำมันแข่งกับน้ำมันปาล์มนั้น กระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่าการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองจากประเทศบราซิลและประเทศสหรัฐ นั้น ในปี 2560 ประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองเพียงเล็กน้อย ส่วนเมล็ดถั่วเหลืองมีการนำเข้ามาใช้ผลิตอาหารสัตว์และแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารเป็นหลัก สำหรับการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองในปี 2560 (ณ สิ้นเดือนก.ย. 2560) มีจำนวน 2.158 ล้านตัน เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันกับปี 2559 ปรากฏว่าลดลง 2.17% จากผลผลิตปาล์มน้ำมัน ปี 2560 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าจะมีปริมาณ 13.50 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 คิดเป็น 18.21% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของทั้งเนื้อที่ให้ผลและผลผลิตต่อไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนมากขึ้น เกษตรกรดูแลดีใส่ปุ๋ยมากขึ้น โดยปัจจุบัน (ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2560) ราคาผลปาล์มน้ำมัน (18%) ก.ก.ละ 3.20-3.60 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ ก.ก.ละ 19.00-19.25 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซีย (1 ธ.ค. 2560) ก.ก.ละ 19.99

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน