นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน โดยจะเพิ่มเป้าหมายการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบจากปัจจุบันส่งออกประมาณเดือนละ 60,000 ตัน เพิ่มเป็น 100,000 ตัน และให้กระทรวงพลังงานนำไปบริหารจัดการเพิ่มปริมาณการใช้เป็นพลังงานทดแทนไบโอดีเซลอีกเดือนละ 100,000 ตัน จะช่วยลดน้ำมันปาล์มในสต๊อกลงเดือนละ 200,000 ตัน จากสต๊อกที่มีอยู่ในขณะนี้ประมาณ 500,000 ตัน ภายใน 1-2 เดือนนี้ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำข้อสรุปที่ชัดเจนภายในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อดึงสต๊อกน้ำมันปาล์มออกไปเดือนละ 200,000 ตัน จะช่วยให้ราคาผลปาล์มดิบขยับขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 3.40-3.50 บาท ไปถึงราคาเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่กิโลกรัมละ 3.80 บาท ซึ่งจะต้องเห็นผลภายใน 2 เดือน รัฐบาลตั้งใจจะทำให้ราคาปาล์มน้ำมันขยับขึ้นโดยเร็วที่สุด และต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งในปีนี้ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันมีจำนวนมากกว่าปกติ ทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นตามไปด้วย สำหรับตลาดส่งออกในขณะนี้คือ จีนและอินเดีย อย่างไรก็ตาม สั่งการให้ทูตพาณิชย์เร่งหาตลาดน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มเติมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมภาคเอกชนที่ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้ให้ข้อมูลว่า มีศักยภาพที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้ถึง 100,000 ตัน แต่ติดขัดปัญหาเรื่องเรือ และรถขนถ่ายที่จะใช้ขนส่งน้ำมันปาล์มดิบ โดยนายสมคิด สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชน จะได้เร่งผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบให้ได้ 100,000 ตัน ภายในสิ้นปีนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน